นายแพทย์ กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ WEALTH LIVE วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ว่าราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 2,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคต
แนวรับสำคัญของทองคำ
นายแพทย์กฤชรัตน์ระบุว่า การร่วงหลุด 2,900 ดอลลาร์ เป็นผลมาจากแรงขายทำกำไรตามปกติ โดยระดับแนวรับระยะสั้นที่สำคัญคือ 2,865 ดอลลาร์ ซึ่งนักลงทุนต้องจับตาดูว่าระดับนี้สามารถรองรับแรงขายได้หรือไม่ หากหลุดลงมา อาจปรับตัวลงไปถึง 2,830 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปอยู่ที่ 2,820 ดอลลาร์ หากราคาทองคำสามารถทรงตัวได้ที่ระดับเหล่านี้ อาจเป็นโอกาสสำหรับการเข้าซื้อสะสม
สรุปข่าว
แนวโน้มราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น
แม้ว่าจะมีการปรับฐานระยะสั้น แต่นายแพทย์กฤชรัตน์ยืนยันว่าราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยระดับแนวรับสำคัญที่ 2,820 ดอลลาร์นั้นมีเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันคอยพยุง หากระดับนี้ยังรองรับอยู่ ทองคำมีโอกาสฟื้นตัวและปรับตัวขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากหลุดระดับนี้ อาจลงไปทดสอบ 2,770 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci retracement ที่ 50% และแนวเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน
ทยอยสะสมตามแนวรับ
สำหรับนักลงทุนที่มีพอร์ตว่างหรือพอร์ตไม่เต็ม สามารถทยอยเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 2,865 ดอลลาร์ หากราคาหลุดระดับนี้ อาจรอซื้อเพิ่มที่ 2,840 ดอลลาร์ และ 2,820 ดอลลาร์ ในขณะที่นักลงทุนที่ถือพอร์ตเต็มแล้ว อาจใช้กลยุทธ์การสลับล็อตเพื่อซื้อในราคาที่ต่ำลง
ปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของทองคำ
ปัจจัยที่อาจช่วยหนุนราคาทองคำให้กลับขึ้นไปคือสงครามการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งอาจสร้างความกังวลต่อตลาดการเงิน และทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หากดอลลาร์อ่อนค่าลง ทองคำจะได้รับแรงหนุนให้ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง
แม้ว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับตัวลดลง แต่ราคาทองคำในประเทศไทยไม่ได้ลดลงมากนัก เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าทะลุระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำในตลาดโลกลดลงมากขึ้น ทองคำไทยก็อาจปรับตัวลงตาม โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ 46,000 บาท และ 45,700 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นระดับที่นักลงทุนสามารถเข้าซื้อสะสมได้
ที่มาข้อมูล : นายแพทย์ กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด
ที่มารูปภาพ : WEALTH LIVE วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
null null
(yurapong_yus)