คุณวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด ได้วิเคราะห์แนวโน้มราคาบิทคอยน์ ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า บิทคอยน์ยังคงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดการลงทุนทั่วโลก ด้วยแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงฟองสบู่ทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้
สรุปข่าว
จากสถิติย้อนหลังในทุกไซเคิลของบิทคอยน์ มักมีการปรับตัวลดลง 70-80% ในช่วงขาลง อย่างไรก็ตาม ในรอบปัจจุบัน มูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นของบิทคอยน์ อาจทำให้การปรับฐานรุนแรงน้อยลง โดยอาจลดลงที่ระดับ 50% แทนที่จะเป็น 70-80% ตามเดิม เนื่องจากตลาดมีการเติบโตและสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบันเงินทุนที่ไหลเข้าสู่บิทคอยน์มาจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการซื้อขายผ่าน Bitcoin Spot ETF อย่างไรก็ตาม สัญญาณล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.พ. พบว่าการไหลออกของเงินทุนจาก ETF อยู่ที่ -930 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการไหลออกที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดตัว เป็นสัญญาณว่านักลงทุนเริ่มลดความเสี่ยงและอาจส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวลง
อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อราคาบิทคอยน์ คือเหตุการณ์โจมตีของ Bybit ซึ่งถูกแฮกไปกว่า 400,000 Ethereum คิดเป็นมูลค่าความเสียหายที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ Digital Asset ทำให้ตลาด Altcoin ปรับตัวลดลง 18-20% และมีมคอยน์บางสกุลลดลงถึง 30-40% อย่างไรก็ตาม Bybit ได้มีการนำเงินสำรองกลับคืน ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงในระดับหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นและระยะยาว คุณวรเมธ จันทร์เสน แนะนำในการลงทุนระยะสั้น ควรจับตาปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ส่วนในการลงทุนระยะยาว นักลงทุนสามารถใช้ดัชนี MVRV (Market Value to Realized Value) เป็นตัวช่วยประเมินว่าราคาบิทคอยน์ อยู่ในระดับที่แพงเกินไปหรือไม่ ปัจจุบัน MVRV อยู่ที่ประมาณ 2.0 ซึ่งหมายความว่านักลงทุนในตลาดมีกำไรโดยเฉลี่ย 2 เท่า โดยราคา บิทคอยน์ล่าสุดอยู่ที่ 88,000 ดอลลาร์ หาก MVRV ขึ้นไปแตะระดับ 3-3.7 จะเป็นสัญญาณว่าราคาเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นที่ระดับ 140,000-150,000 ดอลลาร์
ในส่วนของตลาด Crypto ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากมีการพูดถึง Digital Asset ในการหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ และแนวโน้มที่บางประเทศอาจนำ Bitcoin มาใช้เป็น Strategic Reserve นอกจากนี้ การอนุมัติ Spot ETF สำหรับ Ethereum และการคาดการณ์ว่าสกุลเงินอื่นๆ เช่น Solana และ Litecoin อาจได้รับการอนุมัติในอนาคต ยิ่งส่งเสริมการเติบโตของตลาด
แม้ว่าแนวโน้มของบิทคอยน์ยังคงเป็นบวกในระยะยาว แต่โอกาสที่ราคาจะปรับฐานแรงก็ยังมีอยู่ หากราคาขึ้นเร็วเกินไปโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน ฟองสบู่อาจแตกได้ โดยอาจเกิดการลดลง 50% ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรระวัง และใช้กลยุทธ์การกระจายความเสี่ยง รวมถึงเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เช่น AI, Real World Asset และ DeFi
ที่มาข้อมูล : คุณวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด
ที่มารูปภาพ : WEALTH LIVE วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568

null null
(yurapong_yus)