MAGURO ตั้งเป้าปี 2568 รายได้เติบโตต่อ 30% เดินหน้าขยายร้านหมูทอด AOKI เพิ่ม 4 สาขา เตรียมเปิด 2 แบรนด์ใหม่ต่อยอด

นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO เปิดเผยว่า ในปีนี้ 2568 บริษัทมีแผนจะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงตั้งเป้าหมายปี 2568 จะมีรายได้รวมเติบโต 30% จากปี 2567 ด้วยการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและระมัดระวัง โดยบริษัทมีแผนจะเปิดร้านหมูทอด Tonkatsu Aoki เพิ่มอีก 4 สาขาในไตรมาส 1 และ 2 หลังจากสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิร์ล  นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดร้านอาหารแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 2 แบรนด์ เพื่อขยายฐานรายได้ ขยายสู่เซ็กเม้นท์ใหม่ และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มสำหรับ ร้าน Maguro และ Hitori Shabu อย่างต่อเนื่องเพือรองรับลูกค้ากลุ่มพรีเมียมแมส โดยล่าสุดได้เปิดร้าน Hitori Shabu สาขาพระราม 9 ซึ่งได้รับการต้อนรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี 

และนอกจากเปิดร้านเพิ่ม บริษัทยังเน้นการตลาดที่มีความแปลกใหม่ การจัดโปรโมชันเมนูพิเศษทั้งในแง่ของวัตถุดิบใหม่ รสชาติใหม่ที่หลากหลาย และในแง่ของขนาด (portion size menu) และราคาที่หลากหลายรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภค

MAGURO  ตั้งเป้าปี 2568 รายได้เติบโตต่อ 30% เดินหน้าขยายร้านหมูทอด AOKI  เพิ่ม 4 สาขา เตรียมเปิด 2 แบรนด์ใหม่ต่อยอด

สรุปข่าว

MAGURO ตั้งเป้าปี 2568 รายได้เติบโตต่อ 30% เดินหน้าขยายร้านหมูทอด AOKI เพิ่ม 4 สาขา เน้นกลยุทธ์ จับกลุ่มกำลังซื้อสูง เตรียมเปิด 2 แบรนด์ใหม่ต่อยอด

ทางด้านผลการดำเนินงานของบริษัทปี 2567 มีรายได้รวม 1,378.2 ล้านบาท เติบโต 32 % จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 96.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 33.3% จากปีก่อน

เกินเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ โดยเฉพาะไตรมาส 4/2567 รายได้เติบโต 12.4% เป็น 399.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 34.3 ล้านบาท เติบโต 16.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา  

ถึงแม้ว่าปี 2567จะเป็นปีที่ท้าทายเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายของผู้บริโภค จึงทำให้มีการชะลอตัวของการเติบโตสำหรับแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อในระดับกลางแต่ในภาพรวมบริษัทยังคงรักษาการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิ ด้วยการดำเนินแผนธุรกิจที่กระตุ้นยอดขายร้านเดิม (SSSG) สร้างยอดขายเพิ่มจากการขยายสาขา และเน้นการทำตลาดแบรนด์พรีเมียมที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ ซึ่งสามารถทำกำไรสุทธิ (Margin) ได้สูงกว่า รวมถึงใช้กลยุทธ์การบริหารต้นทุน (Cost Control) อย่างมีประสิทธิภาพ 

ปัจจุบัน MAGURO มีร้านอาหารในเครือรวมทั้งหมด 38 ร้านจาก 5 แบรนด์  ได้แก่ 

MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่น และซูชิระดับพรีเมียม 18 ร้าน 

HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกียากี้หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ 11 ร้าน

SSAMTHING TOGETHER ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลีวัตถุดิบพรีเมียม 6 ร้าน

TONKATSU AOKI ร้านหมูทอด 1 สาขา

และ CouCou ร้านอาหารรูปแบบ All-Day Dining สไตล์ตะวันตก 1 สาขา 

ที่มาข้อมูล : MAGURO

ที่มารูปภาพ : MAGURO

avatar

ธนานันท์ แก้ววิเศษ

แท็กบทความ

MAGURO
มากุโระ กรุ๊ป
จักรกฤติ สายสมบูรณ์
Hitori Shabu
TONKATSU AOKI