"เอเชีย เอวิเอชั่น" หรือ AAV ผู้บริหารสายการบิน "ไทยแอร์เอเชีย" เปิดเผยถึงเป้าหมายปี 2568 ว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการทั้งสิ้น 23-24 ล้านคน ภายใต้เป้าหมายอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ที่ประมาณร้อยละ 90 โดยเป้าหมายปริมาณผู้โดยสารดังกล่าว เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีผู้โดยสารทั้งสิ้น 20.8 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 94 ของระดับก่อนโควิด หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบปีก่อน และมีอัตราการขนส่งผู้โดยสารแข็งแกร่งที่ร้อยละ 91 โดยสัดส่วนผู้โดยสารภายในประเทศต่อผู้โดยสารระหว่างประเทศอยู่ที่ร้อยละ 63 และร้อยละ 37 ตามลำดับ
นอกจากนี้ บริษัทมีเป้าหมายรักษาระดับอัตรากำไร EBITDA ในปี 2568 ให้อยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร และด้วยแนวโน้มดังกล่าว ทำให้บริษัทคาดว่ากระแสเงินสดและสถานะทางการเงินจะปรับตัวดีขึ้นได้ต่อเนื่อง
ส่วนรายได้จากการขายและบริการ บริษัทคาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงระดับร้อยละ 15 จากปีก่อน ซึ่งจะเป็นไปตามจำนวนฝูงบินที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มค่าตั๋วโดยสารที่เพิ่มขึ้นด้วย โดยนอกเหนือจากการเติบโตของรายได้แล้ว บริษัทให้ความสาคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มระดับความตรงต่อเวลา (On-Time Performance: OTP) ให้กลับมาอยู่ในที่ระดับร้อยละ 90 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สายการบินเคยทำได้อย่างโดดเด่น
สรุปข่าว
นอกจากนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชียเตรียมขยายฝูงบินเป็น 66 ลำ ซึ่งมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดยจะรับมอบเครื่องบินใหม่อีก 6 ลำ ซึ่งมีกำหนดรับมอบเครื่องบินลำแรกภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ เพื่อขยายการเติบโตทั้งตลาดภายในประเทศและระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดภายในประเทศ สายการบินไทยแอร์เอเชียยังคงมุ่งรักษาความเป็นผู้นำและขยายเครือข่ายเส้นทางบินจากฐานปฏิบัติการหลัก โดยเฉพาะการเพิ่มเที่ยวบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตอกย้ำสถานะผู้นำจำนวนเส้นทางบินภายในประเทศที่มากที่สุด โดยคาดว่าปริมาณที่นั่งที่ให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 65 ของปริมาณที่นั่งที่ให้บริการทั้งหมดในปี 2568
สำหรับตลาดระหว่างประเทศ สายการบินไทยแอร์เอเชียมีแผนจัดสรรปริมาณที่นั่งที่ให้บริการในเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณครึ่งหนึ่ง ไปยังกลุ่มอาเซียน ส่วนตลาดเอเชียใต้ คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนเป็นร้อยละ 18 จากร้อยละ 14 ในปี 2567 ส่วนที่เหลือจะจัดสรรไปยังจีนและเอเชียตะวันออก นอกจากนี้ ยังมีแผนศึกษาความเป็นไปได้ของเส้นทางบินใหม่ไปยังเกาหลีใต้ รวมถึงเส้นทางสิทธิเสรีภาพการบินที่ 5 (Fifth Freedom) จากฐานปฏิบัติการบินนานาชาติที่สาคัญ เช่น จากฮ่องกงและไต้หวัน เป็นต้น
ส่วนภาพรวมธุรกิจในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานหลักได้ โดย EBITDA ในปีดังกล่าว อยู่ที่ 10,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 จากปีก่อน หนุนด้วยผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ซึ่งคิดเป็นอัตรากำไร EBITDA ที่ร้อยละ 21 ในขณะที่กำไรสุทธิในปีนี้อยู่ที่ 3,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 6.47 เท่าจากปีก่อน
ที่มาข้อมูล : แอร์เอเชีย
ที่มารูปภาพ : แอร์เอเชีย

null null
(athit_kus)