เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ 33.77 บาท/ดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ “อ่อนค่าเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” ที่ระดับ 33.77 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.60 - 33.90 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้ผลการประชุม กนง.)

24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ลักษณะการเคลื่อนไหวของเงินบาทยังอยู่ในทิศทาง Sideways Up โดยมีช่วงอ่อนค่าลงไปทดสอบโซนแนวต้าน 33.80-33.90 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวลงแรงของราคาทองคำถึง -40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ -1.4% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร แม้ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงก็ตาม อย่างไรก็ตาม การที่ราคาทองคำสามารถรีบาวด์กลับมายืนเหนือระดับ 2,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้แรงกดดันต่อเงินบาทลดลงบางส่วน

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”  ที่ระดับ 33.77 บาท/ดอลลาร์

สรุปข่าว

เงินบาทเช้านี้เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ 33.77 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.60 - 33.90 บาท/ดอลลาร์

แนวโน้มค่าเงินบาทในระยะสั้นยังคงเผชิญกับความผันผวน Two-Way Volatility ซึ่งได้รับอิทธิพลจากราคาทองคำเป็นปัจจัยหลัก ทั้งนี้ จากการศึกษาความสัมพันธ์ของค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินบาท และราคาทองคำย้อนหลังตั้งแต่ปี 2015 พบว่า ราคาทองคำมีผลต่อทิศทางค่าเงินบาทอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ Systematic Trading ซึ่งเริ่มนำราคาทองคำมาใช้เป็นตัวแปรสำคัญในการคาดการณ์ค่าเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาปัจจัยใหม่ๆ โดยเฉพาะรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์ และมีผลกระทบต่อเงินบาทโดยตรง

อีกปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยในวันนี้ ซึ่งอาจทำให้เงินบาทผันผวนในช่วงที่ตลาดรับรู้ผลการประชุม โดยจากสถิติในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ค่าเงินบาทมีแนวโน้มผันผวนประมาณ +/-0.20%ภายใน 30 นาทีหลังจากประกาศผลการประชุม ทั้งนี้ หาก กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยแบบไม่เป็นเอกฉันท์ อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่หาก กนง. ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยแบบเซอร์ไพรส์ตลาด ก็อาจส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงแรง

ในระยะยาว ค่าเงินบาทยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดการเงินโลก โดยเฉพาะในปีหน้าที่อาจได้รับผลกระทบจาก Trump’s Uncertainty ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนด้านนโยบายเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้น นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์ปิดความเสี่ยงที่หลากหลาย เช่น การใช้ Options หรือสกุลเงินท้องถิ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและปรับตัวรับมือกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น


ที่มาข้อมูล : Krungthai GLOBAL MARKETS

ที่มารูปภาพ : Getty Images

avatar

Chayapha Pak.
(chayapha_pak)