
วันนี้ (26 ก.พ. 68) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (25 ก.พ.) แต่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักในเดือนก.พ. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,621.16 จุด เพิ่มขึ้น 159.95 จุด หรือ +0.37%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,955.25 จุด ลดลง 28.00 จุด หรือ -0.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,026.39 จุด ลดลง 260.54 จุด หรือ -1.35%
Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจได้เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 98.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2567 จากระดับ 105.3 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 102.3 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความกังวลมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

สรุปข่าว
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ดิ่งลงเกือบ 7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2564 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค ความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
ปีเตอร์ ทุซ ประธานบริษัท Chase Investment Counsel กล่าวว่า นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างเห็นได้ชัด บริษัทจำนวนมากมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีการเปิดเผยล่าสุดถือเป็นหลักฐานที่ยืนยันในเรื่องนี้
ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. ส่วนราคาบิตคอยน์ ซึ่งมักจะถูกใช้เป็นมาตรวัดความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนนั้น ร่วงลง 6.1%
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารร่วงลง 1.53% ตามด้วยหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.47% ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยพุ่งขึ้น 1.69% ตามด้วยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้น 1.14%
หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ร่วงลง 2.8% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ ซึ่งการร่วงลงของหุ้นอินวิเดียได้ฉุดดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia SE Semiconductor Index) ดิ่งลง 2.3%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนที่จะควบคุมปริมาณและประเภทชิปของอินวิเดียที่อาจจะถูกส่งออกไปยังประเทศจีนโดยไม่ต้องมีใบอนุญาต ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดของสหรัฐฯ ที่จะจำกัดขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของจีน
หุ้นธุรกิจบล็อกเชนร่วงลงตามทิศทางราคาบิตคอยน์ โดยหุ้นไมโครสตราเทจี (Microstrategy) ร่วงลง 11% หุ้นเอ็มเออาร์เอ โฮลดิงส์ (MARA Holdings) ลดลง 1.7% และหุ้นคอยน์เบส โกลบอล (Coinbase Global) ดิ่งลง 6.4%
หุ้นซูม คอมมูนิเคชันส์ (Zoom Communications) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วงลง 8.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ที่มาข้อมูล : ตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ที่มารูปภาพ : AFP

Chayapha Pak.
(chayapha_pak)