คุณณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วิเคราะห์ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง แนวรับสำคัญหลุดเสี่ยงเปิดดาวน์ไซด์เพิ่ม
ตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,225 จุด ซึ่งเป็นจุดที่นักวิเคราะห์คาดหวังว่าจะช่วยพยุงดัชนีไว้ได้ถูกทะลุลงมา ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเปิดดาวน์ไซด์เพิ่มเติม
เทคนิคชี้แนวโน้มขาลงยังแข็งแกร่ง
จากมุมมองทางเทคนิค พบว่าดัชนี SET ได้ทะลุแนวรับสำคัญบริเวณ 1,230 จุด ซึ่งเดิมมีโอกาสเป็นจุดฟื้นตัวหากมีแรงซื้อเข้ามา แต่ปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน แรงขายยังคงกดดันต่อเนื่อง ส่งผลให้ RSI ปรับตัวลดลง โดยโลว์เดิมของ RSI อยู่ที่ 31 และขณะนี้อยู่ที่ 31.9 หากลดลงต่ออาจเกิดภาวะ Convergence ที่ยืนยันแนวโน้มขาลงของตลาดต่อไป
หากดัชนี SET ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง มีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,150 จุด ตามแนว Fibonacci Retracement และหากไม่สามารถยืนได้ อาจมีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับบริเวณ 1,080 - 1,000 จุด ซึ่งเป็นจุดที่มีความสำคัญทางจิตวิทยา และเคยเกิดขึ้นในช่วงวิกฤต COVID-19
สรุปข่าว
ปัจจัยภายนอกกดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งอาจรุนแรงขึ้นหลังจากเดือนมีนาคมที่มีการกลับมาเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็เริ่มส่งสัญญาณอ่อนตัว ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง และอัตราเงินเฟ้อคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงอยู่ที่ 4.5% ทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น และกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก
ปัจจัยภายในยิ่งเพิ่มแรงกดดัน
ในประเทศเอง ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ เช่น DELTA และ AOT ส่งผลให้ EPS ของตลาดหุ้นไทยลดลงสู่ระดับ 82 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลายปี สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและแนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่อ่อนแอ
จับตาการประชุม กนง. และแนวโน้มดอกเบี้ย
ความสนใจของนักลงทุนจับจ้องไปที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ 26พ.ค.68 โดยตลาดคาดการณ์ว่ากนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจะต้องติดตามถ้อยแถลงเกี่ยวกับภาวะหนี้เสียและแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ หากยังมีความตึงตัว อาจเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติมต่อตลาด
นอกจากนี้ หากกนง. ส่งสัญญาณว่าอาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต อาจช่วยเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นกลับมาฟื้นตัวได้ โดยกลุ่มหุ้นที่ได้รับประโยชน์คือหุ้นกลุ่มสินเชื่อและธุรกิจที่พึ่งพาต้นทุนทางการเงินต่ำ ในขณะที่กลุ่มธนาคารอาจเผชิญแรงขายทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้นมาแล้วจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ที่มาข้อมูล : คุณณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า
ที่มารูปภาพ : WEALTH LIVE