หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 25 ก.พ. 68 ดาวโจนส์ปิดบวก 33.19 จุด จับตาหุ้นเทคโนฯ

วันนี้ (25 ก.พ. 68) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (24 ก.พ.) แต่ดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลงกว่า 1% โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความต้องการเทคโนโลยีที่รองรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลประกอบการของอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,461.21 จุด เพิ่มขึ้น 33.19 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,983.25 จุด ลดลง 29.88 จุด หรือ -0.50% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,286.92 จุด ลดลง 237.08 จุด หรือ -1.21%

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ในอนาคตของชิป AI ราคาสูงจาก Nvidia ขณะเดียวกันก็รอดูผลประกอบการรายไตรมาสของ Nvidia ในวันพุธนี้ โดยความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายจำนวนมากในด้านเทคโนโลยีนั้น เกิดขึ้นนับตั้งแต่บริษัทดีปซีค (DeepSeek) ของจีนเปิดตัวโมเดล AI ต้นทุนต่ำ ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 25 ก.พ. 68 ดาวโจนส์ปิดบวก 33.19 จุด จับตาหุ้นเทคโนฯ

สรุปข่าว

หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 25 ก.พ. 68 ดาวโจนส์ปิดที่ 43,461.21 จุด เพิ่มขึ้น 33.19 จุด จับตาประกอบการรายไตรมาสกลุ่มเทคโนโลยี

ตลาดมีความกังวลมากขึ้นหลังจากทีดี โคเวน (TD Cowen) เปิดเผยบทวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ (21 ก.พ.) ระบุว่า บริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้ยกเลิกสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าสหรัฐฯ มีโครงสร้างพื้นฐาน AI มากเกินความต้องการ

ขณะที่ Microsoft ระบุว่า แผนการลงทุนกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์ด้าน AI และคลาวด์ในปีงบการเงินปีนี้ยังคงอยู่ แต่บริษัทอาจมีการ "ปรับจังหวะหรือปรับเปลี่ยน" โครงสร้างพื้นฐานในบางพื้นที่อย่างมีกลยุทธ์

จีน โกลด์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุนจากบริษัท Cetera Investment Management แสดงความเห็นว่า นักลงทุนมีความวิตกกังวลในเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว และข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับ AI ก็จะถูกนำมาเป็นเหตุผลในการขายทำกำไร นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 1.43% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลง 0.87% ส่วนหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยดีดตัวขึ้น 0.75% ตามด้วยหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น 0.45%

หุ้น Nvidia ร่วงลง 3.1% ขณะที่หุ้นบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทผลิตชิปรายอื่น ๆ ดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้น Broadcom ร่วงลง 4.9% หุ้น Microsoft ร่วงลง 1% หุ้น Amazon.com ร่วงลง 1.8%

หุ้นแอปเปิ้ล (Apple) ดีดตัวขึ้น 0.7% หลังจากบริษัทประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ในอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งโรงงานผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ในรัฐเท็กซัส

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ที่มาข้อมูล : ตลาดหุ้นนิวยอร์ก

ที่มารูปภาพ : AFP