
บริษัทหลักทรัพย์ แมคควอรี (ประเทศไทย) จำกัด (“แมคควอรี”) ได้เปิดตัวใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ทั้งประเภท Call และ Put (“DW”) อ้างอิงดัชนี Nikkei 225 Stock Average Index (“NIKKEI”) ซึ่งจะเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568
โดยดัชนี NIKKEI เป็นหนึ่งในดัชนีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุดในเอเชีย โดยเป็นเหมือนตัวแทนของเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทขนาดใหญ่ 225 บริษัท ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) โดยมีสัดส่วนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอยู่ถึงประมาณ 49% ของน้ำหนักดัชนี และหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคอยู่ประมาณ 26% ของน้ำหนักดัชนี
แมคควอรีเป็นผู้ออก DW อ้างอิงดัชนีและหุ้นต่างประเทศเป็นรายแรกของประเทศไทย และยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายการออก DW ในประเทศไทยที่ครอบคลุมหลักทรัพย์อ้างอิงใหม่อื่น ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักลงทุน โดยปัจจุบันแมคควอรีเป็นผู้ออก DW อ้างอิงหลักทรัพย์ต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งวัดโดยยอดขาย
ทั้งนี้ การเพิ่ม NIKKEI เป็นหลักทรัพย์อ้างอิง ส่งผลให้ DW อ้างอิงดัชนีต่างประเทศของแมคควอรีครอบคลุม 3 ตลาดหลักโดยแบ่งเป็น ดัชนีฮ่องกงจำนวน 2 ดัชนี (ดัชนีHSI และ ดัชนี HSTECH) ดัชนีสหรัฐอเมริกาจำนวน 3 ดัชนี (ดัชนี NASDAQ-100 ดัชนี Dow Jones Industrial Average และดัชนี S&P 500) และ ดัชนีญี่ปุ่นอีก 1 ดัชนี (ดัชนี NIKKEI 225)

สรุปข่าว
นายดีน เฮอร์เบิร์ต Head of Listed Product Distribution, Asia, Macquarie’s Commodities and Global Markets กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วดัชนี NIKKEI ให้ผลตอบแทนสูงถึง +19.2% เทียบกับดัชนี SET50 ที่ผลตอบแทนอยู่ที่ +2.42% ในขณะที่ดัชนีหลักของโลกซึ่งเป็นหลักทรัพย์อ้างอิงของ DW ที่ออกโดยแมคควอรีต่างก็ให้ผลตอบแทนเป็นตัวเลข 2 หลักด้วย เช่น ดัชนี HSI +17.7% ดัชนี HSTECH +20.3% ดัชนี NASDAQ-100 +28.13% และดัชนี S&P 500 +23.5%
ทั้งนี้ การเพิ่มดัชนี NIKKEI เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงของ DW เป็นเป้าหมายของแมคควอรีที่ต้องการจะเพิ่มทางเลือกใหม่ ๆ และเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนไทย โดยนักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เช่น บริษัท Fast Retailing ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าอย่าง UNIQLO และบริษัท Softbank ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งระดับโลกที่ให้บริการ ด้านโทรคมนาคม บริการทางการเงิน และเทคโนโลยี เป็นต้น โดย DW อ้างอิงดัชนีNIKKEI มีทั้ง Call และ Put ซึ่งนักลงทุนสามารถลงทุนได้ทั้งในตลาดที่เป็นขาขึ้นและขาลง
ด้าน ดร. รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการและหัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การเปิดตัว DW อ้างอิงดัชนี NIKKEI 225 จาก บล. แมคควอรี ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนไทยในการลงทุนในบริษัทญี่ปุ่นที่มีศักยภาพ พร้อมช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างความหลากหลายในพอร์ตการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศ ถือได้ว่าเป็นอีกวิธีการลงทุนที่สะดวกและมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงโอกาสการลงทุนต่างประเทศ”
ด้าน นายนพดล ดวงทิพย์เนตร ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ แมคควอรี กล่าวว่า “การเปิดตัว DW อ้างอิงดัชนี NIKKEI เกิดขึ้น ณช่วงเวลาที่เป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนไทยเนื่องจากมีสงครามทางการค้า และความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเพิ่มความผันผวนและเป็นโอกาสในการเข้าเทรด ทั้งนี้ การลงทุนใน DW อ้างอิงดัชนี NIKKEI ยังใช้เงินลงทุนน้อยแต่ให้โอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูง (Leverage) และมีความสะดวก โดยสามารถส่งคำสั่งซื้อหรือขายผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่นักลงทุนมีอยู่แล้วได้”
ทั้งนี้ ราคา DW อ้างอิงดัชนี NIKKEI จะเคลื่อนไหวตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของดัชนี NIKKEI 225 (Futures) ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งจะมีชั่วโมงการเทรดในช่วงตลาดหุ้นไทยเปิดทำการที่มากกว่า Nikkei 225 Futures ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โอซาก้าทำให้มีช่วงเวลาดูแลสภาพคล่องที่ยาวนานกว่าถึงประมาณ 45 นาที นักลงทุนจึงมีโอกาสในการเทรดได้มากขึ้น โดยช่วงเวลาการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ดูแลสภาพคล่องมี 2 ช่วงเวลาคือ 10:00 น.– 13:55 น. และ 14:25 – 16:30 น. เวลาประเทศไทย