สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า สกุลเงินเยน ของประเทศญี่ปุ่น พุ่งแข็งค่า 0.7% แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 สู่ระดับ 150.46 เยน ต่อดอลลาร์ ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลก็เพิ่มสูงขึ้น เช่นกัน โดยพันธบัตรอายุ 10 ปี มีผลตอบแทนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552
นอกจากนี้ ตลาดอนุพันธ์คาดการณ์ว่ามีโอกาส 83% ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 70% เมื่อต้นเดือนนี้ และตอนนี้ คาดการณ์กันอย่างแน่นอนแล้วว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยภายในเดือนกันยายน 2568
สรุปข่าว
ฮาจิเมะ ทาคาตะ หนึ่งในคณะกรรมการบริหารของ BOJ กล่าวเมื่อวันพุธว่า การพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้นมีความสำคัญ โดยให้เหตุผลว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของญี่ปุ่นกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับมุมมองของตลาดต่อเศรษฐกิจ
ข้อมูลล่าสุดของญี่ปุ่นยังสนับสนุนกรณีที่ BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจาก GDP สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่นและเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ BOJ พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
นอกจากนี้ ค่าเงินเยนยังแข็งค่าขึ้นก่อน
ข้อมูล CPI ของประเทศ ในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 โดย โชกิ โอโมริ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ระดับโลกของบริษัท Mizuho Securities ในโตเกียว กล่าวว่า ถ้าดัชนี CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ค่าเงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยอาจแข็งค่าต่ำกว่า 150 เยนต่อดอลลาร์ ก่อนที่จะมีการประกาศข้อมูล CPI อย่างเป็นทางการ
หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นคือ แรงกดดันในการขายดอลลาร์ที่มีอยู่เดิม และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนต้องการถือเงินเยนซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย