![ธนาคารโลก คาด GDP ไทย ปี 68 โต 2.9%](/static/2025/9e95fb6b-ca7c-4acc-85dd-e8ef16ec2575.webp)
ธนาคารโลก (World Bank) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.9% ซึ่งปรับลดลงเล็กน้อย จาก 3.0% ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนตุลาคม 2567 แต่ก็ยังเร่งตัวขึ้นจากปี 2567 ที่ขยายตัวได้ 2.6% โดยมาจากแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 0.8% ซึ่งยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระดับ 1.0 - 3.0%
ธนาคารโลก ระบุในรายงานว่า การเติบโตของเศรษฐกิจไทยจะถูกขับเคลื่อนโดยการฟื้นตัวของการลงทุน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการดำเนินการด้านงบประมาณที่สูงขึ้นและการดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานท่อส่งน้ำมัน ในขณะที่การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ แต่เป็นตัวขับเคลื่อนที่ชะลอตัวลง
พร้อมคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ภายในกลางปี 2568 นี้ และจะมีนักท่องเที่ยวแตะ 40 ล้านคนได้ในปี 2568 นี้ด้วย
ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนจะได้รับการสนับสนุนจากการกระตุ้นทางการคลัง รวมถึงมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท
แต่วงจรการลดหนี้และการให้สินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นของธนาคารพาณิชย์จะทำให้การบริโภคชะลอตัวลงต่อไป
![ธนาคารโลก คาด GDP ไทย ปี 68 โต 2.9%](/static/2025/9e95fb6b-ca7c-4acc-85dd-e8ef16ec2575.webp)
สรุปข่าว
ด้านภาคการส่งออกสินค้า จะมีการชะลอตัวในปี 2568 เนื่องจากความต้องการที่ลดลงจากคู่ค้าสำคัญ ซึ่งรวมไปถึงสหรัฐอเมริกาและจีน ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าโลก ก่อให้เกิดภัยคุกคามที่สำคัญ เนื่องจากประเทศไทยมีความเปิดกว้างต่อการค้าและการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก ซึ่งคาดว่าท่าทีการเงินของไทยจะยังคงผ่อนคลายอย่างระมัดระวังในปีนี้
ธนาคารโลก เห็นว่า เพื่อเป็นการเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางการคลัง ท่ามกลางความต้องการการใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ประเทศไทยจำเป็นต้องมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือทางสังคมอย่างตรงเป้าหมาย เพิ่มการระดมรายได้จากภาษี และเร่งการลงทุนของภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และทุนมนุษย์ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของภาคเอกชน
นอกจากนี้ ท่าทีทางนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างระมัดระวัง ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นการบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือนอย่างตรงเป้าหมาย ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
ขณะเดียวกัน การปฏิรูปโครงสร้างเพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อกระตุ้นการเติบโตในระยะยาว หากไม่มีการปฏิรูปนโยบายอย่างเร่งด่วน คาดว่าอัตราการเติบโตตามศักยภาพของไทย จะลดลงจากค่าเฉลี่ย 3.2% ในปี 2554-2564 เหลือ 2.7% ในช่วงปี 2565-2573 ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายในการเป็นประเทศรายได้สูง
ที่มาข้อมูล : World Bank
ที่มารูปภาพ : Freepik