ญี่ปุ่นเจอวิกฤตข้าวแพง จ่อระบายสต็อก 2.1 แสนตัน แก้ปัญหา

ประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาราคาข้าวในประเทศพุ่งสูงขึ้น และรัฐบาลพยายามหาทางแก้ไข เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2568 ) นายทาคุ เอโตะ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีมติเห็นชอบ ให้ระบายข้าวออกจากคลังสำรอง 210,000 ตัน จากทั้งหมดที่มีอยู่ราว 1 ล้านตัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากวิกฤติค่าครองชีพ และสภาพอากาศร้อนจัดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการเพาะปลูกข้าว และทำให้ผลผลิตลดลง


ข้าวในสต๊อกจะถูกส่งมอบให้กับผู้ค้าส่งในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2568 นี้ หลังการประมูล และคาดว่าจะวางจำหน่ายในร้านค้าได้ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 จนถึงต้นเดือนเมษายน 2568 


รัฐมนตรีเกษตรฯของญี่ปุ่นระบุว่า การเพิ่มขึ้นของราคาข้าวเมื่อไม่นานมานี้เป็นเรื่องไม่ปกติ และหวังว่าการระบายข้าวจากสต๊อกเป็นครั้งแรกนี้จะทำให้ตลาดกลับสู่ภาวะปกติได้


ทั้งนี้ข้าวที่จะระบายออกมาส่วนใหญ่จะมาจากการเก็บเกี่ยวในปีที่แล้ว และมีบางส่วนมาจากปี 2566 ด้วย


ข้อมูลยังระบุด้วยว่า แม้ว่าข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ในปี 2567 ที่ผ่านมาจะเพิ่มขึ้นถึง 180,000 ตัน จากปี 2566 สู่ระดับ 6.79 ล้านตัน แต่ปริมาณที่ผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ได้รับในช่วงสิ้นเดือนธันวาคม 2567 ลดลง 210,000 ตัน


กระทรวงเกษตรฯ จึงคาดว่า เหล่าผู้ค้าส่งและบรรดาเกษตรกรมีการกักตุนข้าวไว้ เนื่องจากคาดว่าราคาจะปรับตัวขึ้นอีก


ญี่ปุ่นเจอวิกฤตข้าวแพง จ่อระบายสต็อก 2.1 แสนตัน แก้ปัญหา

สรุปข่าว

ประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาราคาข้าวในประเทศพุ่งสูงขึ้น ล่าสุด ทาคุ เอโตะ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2568 ) ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมระบายข้าวจากสต๊อกจำนวน 210,000 ตัน เพื่อให้การกระจายข้าวในประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากราคาข้าวพุ่งสูงขึ้น

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ราคาข้าวในประเทศจะลดลง เมื่อผลผลิตรอบล่าสุดเข้าสู่ตลาด ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา แต่สถานการณ์จริงกลับเป็นไปในทิศตรงกันข้าม เนื่องจากราคาขายปลีกข้าวถุงน้ำหนัก 5 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจาก 2,023 เยน (ราว 446.56 บาท) เมื่อปีที่แล้ว อยู่ที่ 3,688 เยน (ราว 814 บาท) ในเดือนนี้


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังปรับเปลี่ยนนโยบายการดำเนินการกับข้าวในคลังสำรอง จากเดิมที่คุมเข้มกำหนดให้รัฐบาลสามารถระบายข้าวออกมาได้ เฉพาะในยามเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือวิกฤติทางการเกษตรเท่านั้น เป็นกรณีการเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจเพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นมาก่อน 


ทั้งนี้ เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นขายข้าวให้กับสหกรณ์การเกษตรแล้ว ผู้ที่ซื้อไปต้องนำข้าวมาขายคืนให้แก่รัฐบาลในปริมาณเท่าเดิม ภายในระยะเวลาหนึ่งปี เพื่อรักษาเสถียรภาพของคลังข้าวสำรองแห่งชาติ ที่มีมาตั้งแต่ปี 2538

 

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : Freepik