INTUCH ควง GULF โชว์กำไรปี 67 ที่ 31,641 ลบ. ประชุมผู้ถือหุ้นควบรวม "NewCo" 25 มี.ค.68

บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH รายงานผลประกอบประจำปี 2567 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 13,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 333 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 13,139 ล้านบาท  โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกําไรจากเอไอเอส โดยเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของรายได้หลัก และเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ผลประกอบการจากการเข้าซื้อกิจการ TTTBB สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุน ค่าใช้จ่าย และต้นทุนทางการเงิน

INTUCH ควง GULF โชว์กำไรปี 67 ที่ 31,641 ลบ. ประชุมผู้ถือหุ้นควบรวม "NewCo" 25 มี.ค.68

สรุปข่าว

INTUCH ควง GULF โชว์กำไรปี 67 ที่ 31,641 ลบ. ประชุมผู้ถือหุ้นควบรวม "NewCo" 25 มี.ค.68 โดยจะหยุดพักการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯเป็นระยะเวลา 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2568

โดยกลุ่มธุรกิจเอไอเอสมีรายได้จากขาย และการให้บริการในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2566 จากการรับรู้รายได้ของ TTTBB ในปี 2567 เต็มปี และการเติบโตปกติด้วยกลยุทธ์การขายพ่วงบริการเสริมที่มีมูลค่าเพิ่ม การขยายฐานผู้ใช้บริการ และการเพิ่ม ARPU ที่สูงขึ้นจากการขายแพ็กเกจที่รวมหลายบริการ

รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากคุณภาพโครงข่ายที่แข็งแกร่ง รวมถึงการเติบโตของ ARPU จากกลยุทธ์การขายพ่วงบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม และแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศ

รายได้จากธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร และบริการอื่น ๆ โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากการให้บริการการเชื่อมต่อสื่อสารโครงข่ายข้อมูล หรือ EDS และคลาวด์ Cloud รวมถึงการรับรู้รายได้ของ TTTBB และรายได้บริการอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้สัญญาโรมมิ่งกับ NT รวมถึงรายได้จากการขายอุปกรณ์ และซิม ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จากการมุ่งเน้นการขาย Handset ค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น

ในขณะที่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รายงานผลประกอบประจำปี 2567 โดยมีกำไนสุทธิอยู่ที่ 18,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,312 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 22.3%เมื่อเทียบกับปี 266 ที่มีกำไรสุทธิ 14,858 ล้านบาท ในขณะที่รายได้รวมของปี 2567 อยู่ที่ 124,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,634 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้รวม 116,961 ล้านบาท

โดยรายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นนั้นมีสาเหตุหลักมาจาก รายได้จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 111,009 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปี 2566 จากการรับรู็ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 3-4 ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 31 มีนาคม และ 1 ตุลาคม 2567 ตามลำดับ ประกอบกับโรงไฟฟ้ำ GSRC มีปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ.ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตามปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศที่สูงขึ้น

และรายได้จากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 3,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.9% เมื่อเทียบกับปี 2566 สาเหตุหลักมาจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้ GULF1 ซึ่งมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า และให้บริการก่อสร้างโครงการแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม รวมถึงการจำหน่ายแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้น

รายได้จากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภคอยู่ที่ 3,616 ล้านบาท ลดลง  13.8% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยำยได้เปลี่ยนแปลงตามสัดส่วนความคืบหน้าของงานก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรม MTP3 ในส่วนของานถมทะเล

รวมถึงรายได้จากธุรกิจดาวเทียม อยู่ที่ 2,413 ล้านบาท ลดลง 8.1% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยหลักเป็นผลจากการลดการใช้งานของลูกค้า ในส่วนที่ดาวเทียมดวงใหม่ไม่ครอบคลุม ซึ่ง THCOM ยังคงมุ่งมั่นขยายการให้บริการในภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ

ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงาน หรือ core profit ในปี 2567 เทำกับ 18,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6% เมื่อเทียบกับปี 2566 เหตุผลหลักมาจาการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 3-4 และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก HKP INTUCH และ PTT NGD

ในขณะเดียวกันบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ได้อนุมัติการจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่าง INTUCH และ GULF สำหรับการควบรวมกิจการของบริษัท "NewCo" ในวันที่ 25 มีนาคม 2568 เวลา 15.30 น. โดยเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

โดยจะหยุดพักการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯเป็นระยะเวลา 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2568 เพื่อการเตรียมการเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นของ NewCo ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ INTUCH และ GULF รวมถึงดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำหลักทรัพย์ NewCo เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทพเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ที่มาข้อมูล : บริษัทจดทะเบียน

ที่มารูปภาพ : TNN