Puma แบรนด์กีฬาสัญชาติเยอรมัน เปิดเผยเมื่อวันอังคารคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของยอดขายรายไตรมาสที่ปรับค่าเงินแล้วจะอยู่ในระดับหลักเดียวต่ำกว่าปีก่อนหน้า เนื่องจากผลประกอบการที่อ่อนแอในตลาดสหรัฐฯ และจีน บริษัทคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายครั้งเดียวสูงถึง 75 ล้านยูโร (ประมาณ 81.96 ล้านดอลลาร์) ในปี 2025 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของอุปสงค์ผู้บริโภคในจีนทำให้หลายแบรนด์ รวมถึงในภาคสินค้าหรูหรา หันไปให้ความสำคัญกับผู้บริโภคในสหรัฐฯ มากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2025
Puma ยังเตือนถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความท้าทายทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในปี 2025 โดยเน้นถึงปัญหาข้อพิพาททางการค้าและความผันผวนของค่าเงิน
นโยบายภาษีศุลกากรที่กลับไปกลับมาของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อประเทศคู่ค้ารายใหญ่ ทำให้ธุรกิจ ผู้บริโภค และบริษัทต่าง ๆ อยู่ในภาวะไม่แน่นอน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ดันเงินเฟ้อ และกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สรุปข่าว
Puma คาดการณ์ว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับปี 2025 จะอยู่ระหว่าง 520 ล้านยูโรถึง 600 ล้านยูโร ขณะที่ EBIT รวมค่าใช้จ่ายจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพจะอยู่ที่ 445 ล้านยูโรถึง 525 ล้านยูโร
แบรนด์กีฬาชื่อดังรายนี้ระบุว่า EBIT สำหรับไตรมาสแรกจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับระดับ 159 ล้านยูโรในปีก่อนหน้า
Puma ได้เปิดตัวโครงการลดต้นทุนในเดือนมกราคม หลังจากกำไรสุทธิประจำปีลดลงต่ำกว่าปีก่อนหน้า ซึ่งส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทดิ่งลงกว่าร้อยละ 20 ในวันเดียว
ยอดขายรายไตรมาสและกำไรประจำปีที่อ่อนแอของ Puma ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Adidas และ Nike รวมถึงการรับมือกับคู่แข่งหน้าใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น On Running และ Hoka
Puma มีกำหนดเผยแพร่ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 และยอดขายประจำปีฉบับเต็มในวันที่ 12 มีนาคมนี้
ที่มาข้อมูล : https://www.reuters.com/business/retail-consumer/puma-sees-quarterly-sales-drop-us-china-2025-03-11/
ที่มารูปภาพ : -

Passavee Thi
(passavee_thi)