นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงการที่รัฐบาลระบุว่าจะโอนเงิน เงินดิจิทัล 10,000 บาท ระยะ 3 ให้กลุ่มอายุ 16-20 ปี เป็นกลุ่มถัดไป ว่า ในมุมบวก ของเงินดิจิทัล ระยะ 3 คือ
1. เป็นการทดลอง ระบบเงินดิจิทัล ที่ถือเป็นนโยบายเรือธง ของรัฐบาลในวงเงิน ที่จำกัด วงเงิน 27,000 ล้านบาท
2.เป็นการให้สังคมเรียนรู้ ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะปัจจุบันเริ่มเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ซึ่งกลุ่มเป้าหมาย เป็นวัยรุ่น ที่มีความพร้อมในการทดลองระบบ โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่า 2 ระยะแรก (ที่จ่ายเป็นเงินสด) แน่นอน
แต่อย่างไรก็ตามข้อควรระวัง และ ข้อเสนอแนะ คือ
1.การเปิดให้ร้านค้ารายย่อย ทั่วประเทศได้ขึ้นทะเบียน และ มีส่วนร่วมให้มากที่สุด
สรุปข่าว
2.การผลักดันให้ซื้อสินค้า ที่เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศ (Made in Thailand )มากกว่า สินค้านำเข้า
3.ประสิทธิภาพของระบบ ต้องไม่มีการรั่วไหลใดๆ
4.มีการประเมินผลโครงการให้ประชาชนรับทราบ รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล ให้มากที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนตัวมองว่า โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
ดังนั้น เอกชนยังอยากให้ทางภาครัฐ ให้ความสำคัญทางปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และ การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะการผลักดันให้เรามีกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต หรือ New Growth Engine ที่มาจากจุดแข็ง ของประเทศ เพื่อมาขับเคลื่อน เศรษฐกิจของประเทศต่อไปอย่างยั่งยืน

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)