เฟดเตือน มาตรการภาษีทรัมป์ กดดันเงินเฟ้อ

จอห์น วิลเลียม ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์ก ให้ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายภาษีนำเข้าของรัฐบาลทรัมป์ โดยระบุว่ามาตรการดังกล่าวอาจเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อในสหรัฐ

อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่านโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม และไม่มีความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในทันที

วิลเลียม อธิบายว่า ภาษีนำเข้าสินค้าอาจส่งผลให้ราคาสินค้าผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะที่สินค้าบางประเภทอาจได้รับผลกระทบในระยะยาวมากกว่า


สรุปข่าว

ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก เตือน มาตรการภาษีทรัมป์ ระบุ มาตรการดังกล่าวอาจเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อในสหรัฐ ชี้นโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่คาดการณ์ได้ยาก เช่น มาตรการตอบโต้ทางการค้าจากประเทศอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มขึ้นจากภาษีนำเข้า แต่วิลเลียมเน้นว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และเศรษฐกิจยังขยายตัวในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพของประเทศ นอกจากนี้ เขายังมองว่า นโยบายอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันเหมาะสมกับสถานการณ์ และยังไม่จำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น


แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังไม่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเตือนว่าภาษีของทรัมป์อาจเพิ่มภาระค่าครองชีพให้กับครัวเรือนชาวอเมริกัน โดยคาดการณ์ว่าครัวเรือนอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย เกือบ 1,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งอาจกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็ก

อย่างไรก็ตาม แรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีอาจสร้างความท้าทายให้กับธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการกำหนดทิศทางนโยบายการเงิน หากอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น Fed อาจต้องคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นระยะเวลานานขึ้น แต่หากเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า Fed อาจต้องลดอัตราดอกเบี้ยภายในปี 2025 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN

avatar

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)