
ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังและ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ยกร่าง “พระราชบัญญัติสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. ....” เพื่อก่อตั้ง “สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ หรือ National Credit Guarantee Agency (NaCGA)”

สรุปข่าว
ซึ่งประกอบด้วย 8 หมวด 132 มาตรา ให้เป็นกลไกสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SME ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักของเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งผ่านการทำประชาพิจารณ์แล้ว และจะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนมีนาคมนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ต้นปี 2569
โดยหลังจากที่พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ เรามีแผนภายใน 1 ปี ที่จะควบรวมบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กับ NaCGA เข้าด้วยกัน แต่ระบบค้ำประกันแบบเดิมในพอร์ตของ PGS ยังอยู่ แต่จะลดขนาดลงเรื่อยๆ และจะเปลี่ยนระบบค้ำประกันมาเป็นแบบรายบุคคล
สำหรับ NaCGA จะเป็นการกลไกสำคัญยกเครื่องการปล่อยสินเชื่อไทย เพิ่มอำนาจต่อรองให้ผู้ประกอบการ ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมกับความเสี่ยงรายบุคคล
โดย NaCGA จะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ใช่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จะทำหน้าที่ในการประเมินความเสี่ยงและค้ำประกันเครดิตให้ลูกหนี้ โดย NaCGA จะค้ำประกันครอบคลุมถึง Non-Bank และการออกหุ้นกู้ด้วย
สำหรับแหล่งทุนของ NaCGA นั้น จะมาจากเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจากผู้ประกอบการ เงินสมทบจากธนาคารเป็นรายปี คิดเป็นสัดส่วนตามสินเชื่อธุรกิจ และเงินสมทบจาก Non-Bank ที่เลือกใช้บริการ NaCGA
ส่วนกลไกการทำงานของ NaCGA คือ ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อติดต่อ NaCGA เพื่อให้พิจารณาค้ำประกันเครดิตให้กับตนเอง ก่อนไปยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน
โดย NaCGA จะเป็นผู้ประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ประกอบการ ก่อนออก “ใบค้ำประกันเครดิต” ซึ่งผู้ขอสินเชื่อจ่ายค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยตามความเสี่ยง เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และสถาบันการเงินที่ร่วมจ่าย
ก่อนผู้ขอสินเชื่อนำใบค้ำประกันเครดิตที่ได้ไปยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)