เตือน"ภาษีทรัมป์"สร้างความไม่แน่นอนทั่วโลกรุนแรง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น เตือนว่า มีแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนรุนแรงมาก ซึ่งจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังในการกำหนดนโยบายการเงิน

ทั้งนี้ ผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่น กล่าวภายหลังเข้าร่วมการประชุมผู้นำการเงินกลุ่มประเทศ G20 ที่แอฟริกาใต้ว่า สมาชิกหลายคนดูเหมือนจะมีความเห็นตรงกันว่ายังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐอาจดำเนินไปอย่างไร และการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร

ผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่น กล่าวว่า “มีความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายของสหรัฐ รวมถึงเรื่องภาษีศุลกากร และการตอบสนองของประเทศอื่นๆ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องตรวจสอบพัฒนาการต่างๆ”



สรุปข่าว

“ผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่น” เตือนความไม่แน่นอนทั่วโลกรุนแรง จากนโยบายภาษีทรัมป์ เฝ้าระวังในการกำหนดนโยบายการเงิน

พร้อมเสริมว่า เราจำเป็นต้องพิจารณาภาพรวมว่านโยบายของสหรัฐส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ตลาดการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจและราคาของญี่ปุ่นอย่างไร ในการกำหนดนโยบายการเงิน เมื่อถูกถามว่าความไม่แน่นอนระดับโลกจะส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ BOJ ได้อย่างไร

ขณะเดียวกันรายงานสรุปของประธานที่เผยแพร่โดยแอฟริกาใต้ ระบุว่า แม้ว่าเศรษฐกิจโลกหลายส่วนจะแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น แต่รูปแบบการเติบโตยังคงแตกต่างกันไปในแต่ละเศรษฐกิจ รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การหารือของกลุ่มครอบคลุมถึงความเสี่ยงด้านลบที่หลากหลาย เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ความแตกแยกทางเศรษฐกิจ และนโยบายกีดกันทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น


นอกจากนี้ แม้จะมีความเสี่ยงดังกล่าว การคาดการณ์ของตลาดก็เริ่มเพิ่มขึ้นว่าข้อมูลล่าสุดที่แสดงให้เห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะผลักดันให้ BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มเติมจากระดับ 0.5% ในปัจจุบัน

Atsushi Mimura นักการทูตระดับสูงด้านสกุลเงินของญี่ปุ่น กล่าวเมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 ว่า เขาไม่เห็นความแตกต่างระหว่างการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเร็วๆ นี้กับข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีปัญหาใดๆ กับค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอันเนื่องมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล : สำนักข่าวรอยเตอร์

ที่มารูปภาพ : TNN

avatar

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)