สำนักข่าว CNBC รายงานว่า จีนเตรียมประกาศแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางความต้องการภายในประเทศที่ลดลง และแรงกดดันจากสงครามการค้ากับสหรัฐ โดยจีนคาดว่าจะยอมรับการชะลอตัวของอุปสงค์ภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รอคอยมานาน ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การพยุงการเติบโตทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สร้างความเซอร์ไพรส์ ซึ่งนำไปสู่การฟื้นตัวของตลาดหุ้น นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกระตุ้นอีกครั้งหลังจากที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้จัดประชุมกับผู้ประกอบการ รวมถึง แจ็ค หม่า แห่ง Alibaba และเหลียง เหวินเฟิง จาก DeepSeek เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สรุปข่าว
Macquarie คาดว่าจีนจะตั้งงบประมาณขาดดุลที่ 4% ของ GDP ในปีนี้ ซึ่งสูงขึ้นจาก 3% ในปี 2567 ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่สำคัญ เนื่องจากรัฐบาลจีนหลีกเลี่ยงการขาดดุลเกิน 3% มานานหลายปี
นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าจีนจะเพิ่มโควตาการออกพันธบัตรอธิปไตยพิเศษ (Special Sovereign Bonds) เป็น 3 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 410,000 ล้านดอลลาร์) จากเดิมที่ 1 ล้านล้านหยวนในปี 2567 รวมถึงเพิ่มโควตาการออกพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นพิเศษจาก 3.9 ล้านล้านหยวน เป็น 4.5 ล้านล้านหยวน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจีนจะตั้งเป้าหมายการเติบโตของ GDP ไว้ที่ประมาณ 5% เช่นเดียวกับสองปีที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของสี จิ้นผิง ที่ต้องการให้ขนาดเศรษฐกิจจีนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปี 2563 ภายในปี 2578 อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เตือนว่าจีนจะไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐ
ในขณะที่รัฐบาลจีนต้องรับมือกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เพิ่มภาษีสินค้าจีนอีก 10% และอาจมีมาตรการภาษีเพิ่มเติมภายในวันที่ 2 เมษายน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของจีนที่ยังคงเป็นจุดแข็งเดียวที่เหลืออยู่ของเศรษฐกิจจีน
ที่มาข้อมูล : สำนักข่าว CNBC
ที่มารูปภาพ : TNN

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)