สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จำนวนการเกิดในญี่ปุ่นลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง สะท้อนถึงความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของประเทศในการแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมที่พุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางจำนวนแรงงานที่เสียภาษีลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของ ญี่ปุ่น ระบุ จำนวนเด็กเกิดใหม่ในปี 2567 ลดลง 5% จากปีก่อนหน้า เหลือ 720,988 คน นับเป็นปีที่ 9 ติดต่อกันที่จำนวนการเกิดลดลง ตามข้อมูลประชากรเบื้องต้นที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกในปี 1899 ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.62 ล้านคน ส่งผลให้จำนวนประชากรโดยรวมลดลงมากที่สุดในรอบปี
สรุปข่าว
นอกจากนี้ การลดลงของอัตราการเกิดที่ต่อเนื่องนี้เป็นปัญหาเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งต้องเผชิญกับภาระหนี้สูงสุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่ายอดหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นในปีนี้จะอยู่ที่ 232.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
แนวโน้มนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เกาหลีใต้อัตราการเกิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี แต่อยู่ที่ 0.75 ซึ่งยังต่ำกว่าระดับที่จำเป็นต่อการรักษาจำนวนประชากร ในขณะที่ฝรั่งเศสเผชิญกับอัตราการเกิดที่ลดลงเร็วที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษ ส่วนจีนก็กำลังเผชิญกับการลดลงของประชากรเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
ขณะที่ ค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมของ ญี่ปุ่น ยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากสัดส่วนของประชากรที่เข้าสู่วัยเกษียณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับปีงบประมาณที่เริ่มต้นในเดือนเมษายน รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 37.7 ล้านล้านเยน (253 พันล้านดอลลาร์) สำหรับสวัสดิการสังคม ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 20% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
แม้รัฐบาลจะเพิ่มงบประมาณสนับสนุนด้านการเกิด แต่จำนวนทารกเกิดใหม่ยังต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์หลักของสถาบันวิจัยประชากรและความมั่นคงทางสังคมแห่งชาติ ซึ่งเคยคาดการณ์ว่าจะมีทารกเกิดใหม่ 779,000 คนในปี 2567
ที่มาข้อมูล : สำนักข่าวบลูมเบิร์ก
ที่มารูปภาพ : TNN

Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)