เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป และบริษัทย่อย รายงานผลดำเนินการ ปี 2567 มีรายได้จากการขายและบริการ 15,418 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.5 มีกำไรสุทธิ 1,442 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 14.3 โดยเป็นผลมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวจากค่าครองชีพและภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น รวมถึงการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงในธุรกิจร้านอาหาร ส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารเชนในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ
ในปี 2568 บริษัทมีการปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ที่มีความคุ้มค่าและคงคุณภาพ เพื่อเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ให้มากขึ้น และดึงดูดความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภค
สรุปข่าว
ส่วนธุรกิจร้านอาหาร มองหาโอกาสในการเติบโตจากธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเข้ามาเสริมทัพให้พอร์ตธุรกิจแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งการเปิดตัว HIKINIKU TO COME (ฮิคินิคุ โตะ โคเมะ) ร้านแฮมเบิร์กเจ้าดังจากประเทศญี่ปุ่น ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก คาดว่ามีโอกาสเติบโตและขยายได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจรีเทลที่มีความโดดเด่นคือ น้ำจิ้มสุกี้ MK ซึ่งวางจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการวางจำหน่ายไปทั่วโลก ทั้งโซนเอเชีย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ยุโรป, อเมริกาเหนือ, ออสเตรเลีย, ตะวันออกกลาง โดยอนาคตมีแผนการเพิ่มรูปแบบสินค้าใหม่ และขยายช่องทางวางจำหน่ายเพิ่มในอีกหลากหลายประเทศ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ปัจจุบันมีร้านอาหารในเครือทั้งหมด 13 แบรนด์ เช่น MK Restaurants มีทั้งหมด 432 สาขา, YAYOI 191 สาขา, แหลมเจริญ ซีฟู้ด 40 สาขา เป็นต้น
และสาขาแฟรนไชส์ MK Restaurants ในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น 24 สาขา, เวียดนาม 4 สาขา, ลาว 3 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ แหลมเจริญ ซีฟู้ด ในต่างประเทศ คือ มาเลเซีย 4 สาขา เป็นต้น และมีแผนการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ต่อเนื่อง

Passavee Thi
(passavee_thi)