เป๊ก-สัณณ์ชัย เองตระกูล เปิดเผยถึง "บะหมี่มาเฟีย" ว่า เป็นคนที่ชื่นชอบการทำอาหารตั้งแต่เด็ก จนได้รับคำชมทั้งคนในครอบครัวและเพื่อน ทำให้คิดสูตรอาหารมาเรื่อย รวมถึงเปิดตัวร้านอาหาร ขนมขบเคี้ยว และเครื่องปรุงรสมาตลอด และเป็นคนชอบทานเผ็ด ชอบทานรสแซ่บ และมีโอกาสลองบะหมี่เผ็ดที่วางขายอยู่ในไทยมากมาย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำบะหมี่เผ็ดแบรนด์ตัวเอง ที่เน้นรสชาติถึงอกถึงใจ จึงคิดค้นสูตรเส้นบะหมี่อบ และสูตรซอส มาตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดตลอดระยะเวลา 3-4 ปี จนได้สูตรที่ใช่ และลงตัวที่สุด เลยเป็นที่มา "บะหมี่มาเฟีย"
สำหรับความพิเศษคือเส้นจะแตกต่างจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไป เข้าถึงกลุ่มคนรักสุขภาพ เนื่องจากแคลลอรี่น้อย สูตรเด็ดอยู่ที่ซอส ใช้ความเผ็ดจากพริกพันธุ์ไทยทั้ง 3 ชนิด ซอสมีส่วนผสมของสมุนไพรไทย
กลยุทธ์การสร้างแบรนด์คือ คิดเอง ทำเอง โปรโมทเอง ส่วนแผนทำการตลาดในช่วงเวลาที่มีบะหมี่เผ็ดเกาหลีเจ้าอื่น ๆ บุกมาล่วงหน้าหลายปี มองว่า ยังไม่ทุ่มงบกับส่วนนี้มาก เพราะเชื่อว่า ต้องทำโปรดักต์ให้ดีถูกปากคนกิน จนเกิดเป็น "Word of mouth" หรือการบอกแบบปากต่อปาก ถ้าของอร่อย ราคาเข้าถึงได้ ก็จะเกิดกระแสตามมาเอง
สรุปข่าว
สำหรับบะหมี่มาเฟีย เข้ามาสร้างสีสันให้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างคึกคัก โดยชิมลางเปิดตัวครั้งแรกในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 เมื่อกลางปี 2567 ที่ผ่านมา และทดลองจำหน่ายระยะเวลาไม่กี่เดือน มียอดขายถึงหนึ่งแสนซอง คาดว่าปี 2568 จะมีรายได้กว่า 50 ล้านบาท และยังมีแผนที่จะตีตลาดต่างประเทศกว่า 10 ประเทศทั่วทุกทวีป ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท โก๋เป็กฟู้ด จำกัด
สำหรับตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทย มีมูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท โดยเจ้าตลาดหรือเบอร์ 1 คือ "มาม่า" และที่น่าสนใจคือ คนไทยบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเฉลี่ยปีละ 55 ซอง ส่งผลให้ประเทศไทยติดอันดับ 9 ของโลกที่มีการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสูงสุด
ที่มาข้อมูล : บริษัท โก๋เป็กฟู้ด จำกัด
ที่มารูปภาพ : บริษัท โก๋เป็กฟู้ด จำกัด