คุณ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยที่เป็นแรงกดดันต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีที่ผ่านมา จะยังคงมีอยู่ต่อเนื่องในปี 2568 นี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งอยู่ในระดับสูง, อุปทานล้านตลาด โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยว ที่ล้นตลาดในทุกระดับราคา แต่กลุ่มที่สุขภาพยังดีอยู่ คือกลุ่มราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป และเรื่องที่ 3 คือเรื่อง ความเชื่อมั่นต่ำ ธนาคารปล่อยกู้ยาก ผู้บริโภคก็ระมัดระวังการใช้จ่าย
และปีนี้ ยังมีปัจจัยผันผวนจากปัญหา ภูมิรัฐศาสตร์ เข้ามาเพิ่มเติมอีก ทำให้ บริษัทฯ ต้องปรับตัวอย่างมาก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเติบโต โดยจะมีการปรับพอร์ตธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยง แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยเพื่อขาย, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำ เช่น โรงแรม คลังสินค้า และอาคารสำนักงาน เป็นต้น
และธุรกิจที่ 3 กำลังพิจารณาโอกาสใหม่ ๆ ที่อยู่นอกกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยจะเน้นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต
สรุปข่าว
สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 26,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 และมีรายได้รวมจากทุกกลุ่มธุรกิจ 25,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 11 อีกทั้ง จะลงทุนต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุน 7,000 ล้านบาท และในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะรีแบรนด์ใหม่ มีโลโก้ใหม่ และภาพลักษณ์ใหม่ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 18 อีกด้วย
ส่วนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ในปีนี้ จะมีทั้งหมด 15 โครงการ มูลค่ารวม 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ รวม 12 โครงการ มูลค่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นโครงการบ้านหรูมากขึ้น และไฮไลต์สำหรับบ้านแนวราบ ในปีนี้ จะมีแบรนด์โครงการบ้านหรู แบรนด์ใหม่คือแบรนด์ ซันเล (SONLE) ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ โซฟิสทิเคตเต็ด โมเดิร์น ทรอปิคอล (Sophisticated Modern Tropical) ที่มีราคาเริ่มต้นหลังละ 200 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ยังมีอยู่ ในกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง
คุณ ณัฐพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการบ้าน ซันเล (SONLE) จะเป็นโครงการที่สำคัญมากของปีนี้ ถือเป็นตลาดเฉพาะ และเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ อีกด้วย ในการทำบ้านราคา 200 ล้านบาทขึ้นไป จากก่อนหน้านี้เคยทำโครงการบ้านหรู 100 ล้านบาท ไปแล้ว โดยบ้านหรู ซันเล จะมีเพียง 5 หลังเท่านั้น และจะมีเลขที่บ้าน ที่เป็นเลขมงคลทั้งหมด อย่างไรก็ดี จะมีความชัดเจนของโครงการอีกครั้งในช่วงกลางปี
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ในปี 2568 จะมี 3 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะมีโรงแรมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 2 ทำเล คือติดถนนสุขุมวิท (ตรงข้ามห้าง เอ็มสเฟียร์) และหาดนาจอมเทียน พัทยา จะเปิดตัวไตรมาส 2 ปีนี้ ส่วนคลังสินค้าเพื่อเช่า จะมีอีก 3 โครงการใหม่ ในทำเลบางนา, แหลมฉบัง และนิคมอมตะ ชลบุรี
ซีอีโอ เอสซี แอสเสท กล่าวด้วยว่า ปีนี้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต้องการมาตรการจากภาครัฐอย่างมาก เพื่อมากระตุ้นตลาด เช่น มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ โดยไม่ควรจำกัดอยู่ที่ระดับราคาใดราคาหนึ่งเท่านั้น แต่ควรใช้กับทุกระดับราคาที่อยู่อาศัย, มาตรการสนับสนุนการกู้ได้มากขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการ LTV (แอลทีวี) และมาตรการ การดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ
ที่มาข้อมูล : บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ที่มารูปภาพ : บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)