กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผย IMF Executive Board Concludes 2024 Article IV Consultation with Thailand โดยระบุว่า หลังจากเข้าหารือกับเจ้าหน้าที่ประเทศไทยพบว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยยังคงดำเนินต่อไป ‘แต่ค่อนข้างช้าและไม่สม่ำเสมอ’ ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวโดยพอประมาณในปี 2567 ซึ่งขับเคลื่อนโดยการบริโภคภาคเอกชนและการฟื้นตัวของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ขณะที่กระบวนการงบประมาณที่ล่าช้าทำให้การลงทุนของภาครัฐชะลอตัว
IMF ระบุอีกว่า การฟื้นตัวของไทยที่ช้ากว่าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เป็นผลมาจากจุดอ่อนเชิงโครงสร้างที่มีมายาวนานของประเทศไทย ขณะที่แรงต้านภายนอกและภายในประเทศที่เกิดขึ้นใหม่ยังส่งผลต่อเงินเฟ้อที่ลดลงอีกด้วย ขณะที่แนวโน้มทางเศรษฐกิจก็ยังคงไม่แน่นอนอย่างมาก พร้อมความเสี่ยงด้านลบสำคัญ
สรุปข่าว
IMF ยังแนะด้วยว่านโยบายการคลังควรเน้นไปที่การสร้างพื้นที่ทางการคลังใหม่ โดยการใช้จุดยืนทางการคลังแบบขยายตัวลดลง จากที่คาดการณ์ไว้ภายใต้ปีงบประมาณ 2568 จะยังคงสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอยู่ ขณะที่ยังจะช่วยรักษาพื้นที่ทางการคลังไว้ด้วย
อีกทางหนึ่ง การจัดสรรงบประมาณที่จัดไว้สำหรับโครงการ ‘แจกเงิน’ บางส่วนใหม่ เพื่อการลงทุนเพื่อเพิ่มผลผลิตหรือการคุ้มครองทางสังคมแทน จะช่วยทำให้การเติบโตครอบคลุมและแข็งแกร่งขึ้น และจะช่วยลดอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ลงได้
IMF ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยินดีกับการตัดสินใจของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนตุลาคม พร้อมแนะนำให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนเงินเฟ้อ และปรับปรุงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ (Debt-Servicing Capacity) เนื่องจากมองว่ามีความเสี่ยงจำกัดที่การกู้ยืมจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งท่ามกลางการให้สินเชื่อที่เข้มงวด
ที่มาข้อมูล : กองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ที่มารูปภาพ : TNN