ยอดคำสั่งซื้อสินค้าไต้หวันลดครั้งแรกรอบ 1 ปี

กระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวัน เปิดเผยว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าจากไต้หวันในเดือนมกราคมลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 4.697 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 11 เดือน เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชะลอตัวตามฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม ทางการไต้หวันยังคงมองในแง่บวกเกี่ยวกับความต้องการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ยอดคำสั่งซื้อที่ลดลงดังกล่าวย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้กับ “รอยเตอร์ส” ว่าจะลดลงร้อยละ 1.8 และเทียบกับในเดือนธันวาคมที่ขยายตัวร้อยละ 20.8 แม้ว่าสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคมจะตรงกับช่วงเทศกาลตรุษจีน

สรุปข่าว

ยอดคำสั่งซื้อสินค้าจากไต้หวันลดลงครั้งแรกในรอบ 11 ปี เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ชะลอตัวชั่วคราว แต่ยังมีแนวโน้มเชิงบวกจากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก

คำสั่งซื้อสินค้าจากไต้หวัน ซึ่งเป็นแหล่งรวมของบริษัทผลิตชิปตามสัญญาจ้างรายใหญ่ของโลก และบริษัทเทคโนโลยี นับเป็นตัวบ่งชี้ความต้องการบริโภคเทคโนโลยีทั่วโลก

ขณะที่การส่งออกของไต้หวันในปีนี้มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบ หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการกำแพงภาษี 

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอให้เก็บภาษีชิปในอัตราร้อยละ 25 ขณะที่ไต้หวันรับมือภัยคุกคามจากภาษีศุลกากรด้วยการใช้แนวทางการทูต และมีแผนจะหารือเกี่ยวกับการลงทุนด้านอุตสาหกรรมชิปในสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของผู้นำสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ต่างชาติเข้าไปลงทุนมากขึ้น

ขณะที่ทางการไต้หวันยังคงมีมุมมองในเชิงบวก โดยคาดว่าคำสั่งซื้อสินค้างวดเดือนกุมภาพันธ์จะเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 15.3-20.6 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน ระบุในแถลงการณ์ว่า ความต้องการบริโภคยังคงแข็งแกร่งในส่วนของเทคโนโลยีขั้นสูงเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะสนับสนุนคำสั่งซื้อให้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : TNN