ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์เผยให้เห็นว่า บริษัทญี่ปุ่นเกือบ 9 ใน 10 แห่งคาดว่านโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะส่งผลลบต่อธุรกิจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ อย่างญี่ปุ่น
ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า ความเป็นไปได้ในการขึ้นภาษีนำเข้าและความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ได้ส่งผลให้มุมมองของบริษัทในญี่ปุ่นไม่สดใส โดยแม้ญี่ปุ่นจะเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นของสหรัฐฯ แต่ก็ยังต้องพึ่งพาจีนอย่างมากทั้งในแง่ฐานการผลิตและตลาดสำคัญสำหรับเครื่องจักรและสินค้าส่งออกอื่นๆ
สรุปข่าว
ล่าสุด เมื่อวันอังคาร (18 ก.พ.)ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ "ในระดับประมาณ 25%" ส่วนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์และยาก็จะอยู่ในอัตราประมาณเดียวกัน หรืออาจจะสูงกว่า โดยระบุว่าอาจจะมีการประกาศอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ครั้งใหม่ในวันที่ 2 เม.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม หากอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าทั่วโลก ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ก็อาจได้รับผลกระทบด้วย" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งจากบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ระบุ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่อาจลุกลามไปในวงกว้าง
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า 73% ของบริษัทญี่ปุ่นมองว่าการกลับมาดำรงตำแหน่งของปธน.ทรัมป์ จะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยปธน.ทรัมป์เพิ่งเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนที่แล้ว