นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีกประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ "แม็คยีนส์" เปิดเผยว่า ช่องทางขายผ่านร้านค้าออนไลน์ (E-Commerce) เข้ามามีบทบาทมากขึ้น หลังแบรนด์แม็คยีนส์ติดอันดับหนึ่งแบรนด์ที่มียอดขายมากที่สุดใน TIKTOK หลังวางกลยุทธ์ขยายทำตลาด เช่น เปิดร้านค้าออนไลน์ ร่วมมือ อินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงการ ไลฟ์ ต่อเนื่อง
โดย งวดครึ่งแรกของปีบัญชี 2568 สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ ร้อยละ 16 จาก ร้อยละ 10 เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนช่องทางขายอื่น ๆ สัดส่วนลดลง โดย ช่องทางออฟไลน์ ร้านค้าปลีก (Free-standing Shop) มีสัดส่วน ร้อยละ 65 ลดลงจากร้อยละ 68 มีรายได้ 1,426 ล้านบาท, ห้างสรรพสินค้า (Department Store) ร้อยละ 17 จากร้อยละ 19 มีรายได้ 379 ล้านบาท, และช่องทางอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 1 จากร้อยละ 3
สรุปข่าว
ขณะที่ ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปีบัญชี 2568 (1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2567) ว่า กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว หรือ 130% จากไตรมาสแรกปีบัญชี 2568 ที่มีกำไรสุทธิ 133 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 283 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 22.5 เมื่อเทียบงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 21.5
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป กล่าวด้วยว่า บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์หลัก ที่มุ่งเน้นคุมเข้มต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ที่ทำมาต่อเนื่องส่งผลให้ กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องและหนุนให้ผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 19.2 ณ สิ้นธันวาคม 2567
อย่างไรก็ตาม แม็คกรุ๊ป ยังคงสถานะการเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้เงินกับสถาบันการเงิน ขณะที่เงินสดในมือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ณ สิ้น ธันวาคม 2567 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และเงินลงทุนชั่วคราว 1,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162 ล้านบาท จากสิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ที่มีเงินสด 1,734 ล้านบาท
Passavee Thi
(passavee_thi)