นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคม อาคารชุดไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้ร่วมหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้นำเสนอข้อมูลสภาพ ตลาดในปัจจุบัน รวมทั้งมาตรการระยะสั้นและ ระยะยาว มีทั้งที่เกี่ยวข้องกับ ธปท. โดยตรงและเกี่ยวข้องกับรัฐบาล เพื่อเป็นการประคับประคองตลาดอสังหาฯ ที่อยู่สภาวะยากลำบากให้ฟื้นตัวได้ แม้อาจต้องใช้เวลาก็ตาม
ซึ่งธุรกิจอสังหาฯ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคิดเป็นร้อยละ 8-12 ของจีดีพี โดย ธปท.รับข้อเสนอไว้พิจารณา น่าจะเป็นสัญญาณและนิมิตหมายที่ดีที่ทุกฝ่ายช่วยกันแก้ปัญหาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่อาจต้องใช้เวลาพิจารณา แต่ก็อยากให้เร่งผลักดันมาตรการออกมาโดยเร็ว เนื่องจากตลาดอยู่ในภาวะยากลำบาก โดยเฉพาะตลาดกลาง-ล่าง ที่มีปัญหากำลังซื้อ และรีเจ็กต์เรตสูง ต้องพึ่งกลุ่มที่มีกำลังซื้อ คือกลาง-บน สำหรับการซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3 ได้
นายประเสริฐกล่าวว่า มาตรการระยะสั้นที่ เสนอ แบ่งเป็นมาตรการปกติ 1.ขอ ธปท.เลิก หลักเกณฑ์กำกับที่อยู่อาศัย (LTV) 2 ปี 2.ลดค่าโอนและจำนองร้อยละ 0.01 อีก 1 ปี
3.ให้ธนาคารรัฐจัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ผู้มีรายได้ น้อย-ปานกลาง 4.ลดดอกเบี้ยลดค่าผ่อนบ้าน
ส่วนมาตรการยาแรง 1.ผ่อนปรน LTV ให้ทุกระดับราคา จนกว่าตลาดกลับเป็นปกติ 2.ลดค่าโอนและจำนองร้อยละ 0.01 สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา จากเดิมไม่เกิน 7 ล้านบาท
3.สามารถนำการซื้อที่อยู่อาศัยหักลดหย่อนภาษีและดอกเบี้ยได้ เป็นเวลา 5 ปี เฉลี่ยปีละ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 650,000 บาท ส่วนมาตรการระยะยาวเป็นการปรับโครงสร้างอสังหาฯ จัดระเบียบการถือครองของชาวต่างชาติ ซึ่งต้องใช้เวลา เพราะต้องแก้กฎหมาย
โดยอสังหาฯ เสนอขยายระยะเวลาเช่าจาก 30 ปี เป็น 60 ปี ปรับโควตาต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมจากเดิมร้อยละ 49 เป็นร้อยละ 75 หรือถ้าซื้อเต็มร้อยละ 49 แล้ว ก็ปรับเป็นเช่ายาว 60 ปีก็ได้ รวมถึงเสนอให้เก็บอัตราภาษีการซื้ออสังหาฯ ของ ต่างชาติสูงกว่าคนไทย เพื่อนำรายได้ไปพัฒนาที่ อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย
สรุปข่าว
Chakorn Nhukongmai
(Chakorn Nhukongmai)