โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร ยกเลิกมาตรการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยมุ่งเป้ายุติการเปลี่ยนผ่านไปสู่หลอดกระดาษ โดยคำสั่งนี้มีผลทันที และเป็นการยกเลิกมาตรการที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยลงนามไว้ โดยไบเดนเคยระบุว่า มลพิษจากพลาสติกเป็น "วิกฤต"
ทรัมป์ ระบุว่า หลอดกระดาษใช้ไม่ได้ผล ใช้มาหลายครั้ง และบางครั้งมันก็หัก มันแตกหรือระเบิด ถ้ามีอะไรที่ร้อน หลอดพวกนี้จะอยู่ได้ไม่นาน แค่ไม่กี่นาที บางครั้งแค่ไม่กี่วินาที นี่เป็นเรื่องไร้สาระ
ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดนเคยประกาศว่าจะทยอยยกเลิกการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวจากบรรจุภัณฑ์อาหาร กิจกรรม และการดำเนินงานภายในปี 2027 และจากทุกหน่วยงานของรัฐบาลกลางภายในปี 2035
ย้อนกลับไป ทรัมป์ เป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์หลอดกระดาษมาอย่างยาวนาน โดยระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งในปี 2020 ซึ่งเขาพ่ายแพ้ ทรัมป์เคยขายหลอดพลาสติกที่มีชื่อ "Trump" ในราคา 15 ดอลลาร์ต่อแพ็ก 10 หลอด เพื่อแทนที่สิ่งที่เขาเรียกว่า "หลอดกระดาษของฝ่ายเสรีนิยม"
สรุปข่าว
มีรายงานว่าการขายหลอดพลาสติกของทรัมป์สร้างรายได้เกือบ 500,000 ดอลลาร์ภายในไม่กี่สัปดาห์แรก
มีการประมาณว่าชาวอเมริกันใช้หลอดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งประมาณ 500 ล้านหลอดต่อวัน แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะมีการโต้แย้งกัน และจำนวนที่แท้จริงอาจอยู่ที่ราวครึ่งหนึ่งของตัวเลขนี้
ขณะที่เมืองและรัฐหลายแห่งในสหรัฐฯ เช่น ซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน แคลิฟอร์เนีย โอเรกอน และนิวเจอร์ซีย์ ได้ออกกฎจำกัดการใช้หลอดพลาสติก หรือกำหนดให้ร้านค้าจัดหาหลอดพลาสติกให้เฉพาะเมื่อได้รับการร้องขอจากลูกค้า
ข้อมูลสถิติของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ มีการผลิตพลาสติกปีละ 460 ล้านตัน ซึ่งส่งผลให้เกิดขยะในมหาสมุทรและไมโครพลาสติกที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์
ขณะเดียวกัน มีการศึกษาบางฉบับพบว่าหลอดกระดาษอาจมีสารเคมี "ตลอดกาล" หรือ PFAS (สารโพลีฟลูออโรอัลคิล) ในปริมาณที่สูง โดย PFAS สามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายทศวรรษ ปนเปื้อนแหล่งน้ำ และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายประการ

Passavee Thi
(passavee_thi)