ชิเซโด้ (Shiseido) กล่าวว่ากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7,580 ล้านเยน หรือ 1,690 ล้านบาท ในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2024 เทียบกับ 28,130 ล้านเยน หรือ 6,276 ล้านบาทในปีก่อนหน้า
บริษัทญี่ปุ่นรายนี้ระบุในแถลงการณ์ว่า ตลาดเครื่องสำอางของจีนเผชิญกับภาวะตกต่ำเป็นเวลานาน โดยได้รับอิทธิพลจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงและการออมในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย
ชิเซโด้กล่าวว่า ยอดขายในจีนลดลงร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยไม่รวมถึงผลกระทบของการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และยังคาดการณ์ว่ายอดขายจะลดลงในปี 2025
เคนทาโร ฟูจิวาระ ประธานบริษัทชิเซโด้ กล่าวถึงตลาดจีนในการบรรยายสรุปหลังเผยผลประกอบการกับผู้สื่อข่าวว่า เราคิดว่าธุรกิจจะผ่านจุดต่ำสุดในปีนี้ และจะสามารถบรรลุการเติบโตอย่างแข็งแกร่งหลังจากนั้น
แต่ชิเซโด้ก็ไม่ได้มีแต่ข่าวร้าย เพราะในญี่ปุ่น บริษัทมียอดขายสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และคาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกันในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว
สรุปข่าว
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ย่ำแย่ในจีนไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับชิเซโด้ แต่กำไรที่รายงานโดยคู่แข่งด้านเครื่องสำอางอย่าง L'Oreal และ Estee Lauder ก็ถูกฉุดลงมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เศรษฐกิจของจีนที่ครั้งหนึ่งเคยเติบโตอย่างรวดเร็วได้รับผลกระทบจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ หนี้รัฐบาลท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้น และการว่างงานของเยาวชนที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวจีนหันไปหาแบรนด์ในประเทศกันมากขึ้นและกลายมาเป็นปัญหาสำหรับผู้ผลิตสินค้าฟุ่มเฟือยระดับโลก
หุ้นในแบรนด์ความงามของจีน เหมา จี้ผิง เพิ่มขึ้นร้อยละ 85 ในการเปิดตัวในตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากนั้น
ที่ผ่านมาในเดือนพฤศจิกายน ชิเซโด้ได้เปิดตัวแผนปฏิบัติการระยะเวลา 2 ปีเพื่อฟื้นฟูความสามารถในการทำกำไรและมุ่งเน้นไปที่แบรนด์หลักของตน
ชิเซโด้ เป็นผู้ค้าปลีกสินค้าส่วนบุคคลระดับไฮเอนด์ ถูกมองว่าเป็นเครื่องวัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัทและบริษัทในเครือต้องพึ่งพาในการเติบโตของยอดขาย
ด้านหุ้นของชิเซโด้ ร่วงลงร้อยละ 42 ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับค่าเฉลี่ยมาตรฐานของนิคเคอิที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 ในช่วงเวลาเดียวกัน
Passavee Thi
(passavee_thi)