
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับสถาบันการเงิน
มีสาระสำคัญคือ สถาบันการเงินที่ให้บริการ Mobile Banking บนอุปกรณ์เคลื่อนที่มีหน้าที่ต้องติดตามดูแล และ ปรับปรุงระบบงานและบริการ Mobile Banking ให้มีความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐานสากลเท่าทันภัยคุกคามทางไซเบอร์และภัยทุจริตรูปแบบใหม่ที่มีเทคนิคขับช้อนขึ้น ครอบคลุมทั้งในส่วนของระบบการให้บริการของสถาบันการเงิน และความมั่นคงปลอดภัยของอุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้ใช้บริการ
อาทิ มีกระบวนการติดตามและรับมืออย่างทันการณ์ต่อแอปพลิเคชันที่ปลอมแปลง หรือแอบอ้างเป็นแอปพลิเคชันของสถาบันการเงินที่ให้บริการ Mobile Banking ในแพลตฟอร์มที่เป็นทางการของผู้ให้บริการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน (official app store)
จำกัดการใช้บริการ Mobile Banking ของผู้ใช้บริการไว้เพียง 1 บัญชีผู้ใช้งานต่อ 1 บริการ Mobile Banking ของแต่ละสถาบันการเงิน และจำกัดการใช้บริการดังกล่าว โดยให้ใช้งานบน 1 อุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้ใช้บริการเท่านั้น
อ่านราชกิจจานุเบกษา คลิกที่นี่

สรุปข่าว
นอกจากนี้ ยังกำหนดเพดานวงเงินสูงสุดต่อวันสำหรับธุรกรรมถอนเงินหรือโอนเงิน ผ่านบริการ Mobile Banking ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของกลุ่มผู้ใช้บริการ เพื่อลดความเสียหายเมื่อผู้ใช้บริการตกเป็นเหยื่อ หรือถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทุจริต เช่น กรณีกลุ่มผู้ใช้บริการที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ให้กำหนดวงเงินสูงสุดของการทำธุรกรรมถอนหรือโอนเงินรวมกันไม่เกิน 50,000 บาทต่อวันเป็นต้น
กรณีสถาบันการเงินมีการให้บริการบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ หรือสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการสาถบันการเงินต้องจัดให้มีแนวทาการควบคุมความเสี่ยงเพิ่มเติม โดยแจ้งเตือนถึงความเสียจากกรณีดังกล่าว รวมทั้งจำกัดวงเงินการทำธุรกรรมของกลุ่มผู้ใชบริการดังกล่าวให้ทำธุรกรรมโอนเงินได้ไม่เกินวันละ 5,000 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้ วันเริ่มต้นบังคับใช้ประกาศนี้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวัน นับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
เว้นแต่กรณีหน่วยงานด้านความมั่นคงปลอดภัยที่เป็นที่ยอมรับ เช่น Thailand Banking Sector Computer Emergency Response Team (TB-CERT) ระบุว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ หรือการสวม รอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันถัดจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป (ราชกิจจาฯ ลงวันที่ 31 มกราคม 2568)
ที่มาข้อมูล : ราชกิจจานุเบกษา
ที่มารูปภาพ : AFP