เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวยกย่องการดำเนินการครั้งนี้ ซึ่งมีการวางแผนมานานหลายปี ว่าเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่แห่งอิสรภาพของภูมิภาค
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเปลี่ยนจากโครงข่ายไฟฟ้าของอดีตผู้ปกครองในยุคจักรวรรดิโซเวียตอันซับซ้อนนี้ เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาหลายปี แต่มีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วหลังจากการผนวกไครเมียของรัสเซียในปี 2557 และการรุกรานยูเครนในปี 2565
การเปลี่ยนแปลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มประเทศบอลติกมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ EU มากขึ้น และเพื่อยกระดับความมั่นคงทางพลังงานของภูมิภาค ที่สำคัญทวีปยุโรปโดยรวมก็กำลังปลดแอกตัวเองจากการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติของรัสเซียเช่นกัน
โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ยูเครนดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้ไปแล้วในปี 2565 "และกลุ่มประเทศบอลติกก็กำลังขจัดภาระในการพึ่งพานี้เช่นกัน"
รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มประเทศบอลติกได้ตัดสายส่งไฟฟ้าแรงสูงข้ามพรมแดนทางตะวันออกของลัตเวีย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียประมาณ 100 เมตร และได้แจกชิ้นส่วนสายไฟที่ถูกตัดให้กับผู้ที่สนใจเก็บไว้เป็นที่ระลึก หลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ก.พ.) ทางกลุ่มได้ตัดการเชื่อมต่อจากเครือข่าย IPS/UPS ซึ่งก่อตั้งขึ้นในสมัยสหภาพโซเวียตเมื่อช่วงทศวรรษ 1950 และปัจจุบันบริหารจัดการโดยรัสเซีย
ทั้งนี้ ภูมิภาคทะเลบอลติกอยู่ในภาวะเฝ้าระวังขั้นสูงสุด หลังจากเกิดเหตุขัดข้องกับสายไฟฟ้า สายโทรคมนาคม และท่อส่งก๊าซระหว่างกลุ่มประเทศบอลติกกับสวีเดนหรือฟินแลนด์ ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากการที่เรือลากสมอไปตามพื้นทะเลหลังจากที่รัสเซียบุกยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
สรุปข่าว