"ทรัมป์ 2.0" ซ้ำเติมค่าบาทผันผวนสูงยิ่งขึ้น

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics มองค่าเงินบาทในปี 2568 จะเผชิญกับความผันผวนสูงขึ้นกว่าช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 ที่สูงอยู่ก่อนแล้วจากบริบทเศรษฐกิจไทยที่เปลี่ยนไป


และปฏิเสธไม่ได้ว่าการกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสมัยที่ 2 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มาพร้อมกับนโยบายกีดกันทางการค้ารอบใหม่ เป็นปัจจัยซ้ำเติมความผันผวนของค่าเงิน 


โดยเปิดปี 2568 เงินบาทปรับอ่อนค่าแตะระดับ 34.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนทยอยกลับมาเคลื่อนไหวทิศทางแข็งค่าแตะระดับต่ำสุด 33.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปัจจุบันเคลื่อนไหวใกล้เคียงระดับ 33.66 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูลวันที่ 6 ก.พ. 68) เคลื่อนไหวตามพัฒนาการ และความคาดหวังของประเด็นการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ


นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบจากต่างประเทศ เช่น ความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจจีนที่เพิ่มมากขึ้น และความเสี่ยงจากการมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันระหว่างไทยและสหรัฐฯ ที่อาจทำให้เงินบาทถูกกระทบหนักขึ้น


ดังนั้นการใช้สกุลเงินท้องถิ่น อาจช่วยบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนได้ดีในช่วงนี้ โดยเฉพาะจากความไม่แน่นอนของนโยบายกีดกันทางการค้ารวมถึงช่วยตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาความผันผวนที่สูงขึ้นของค่าเงินบาทในระยะยาว 


เนื่องจากเงินบาทเทียบกับสกุลภูมิภาค มีความผันผวนที่ต่ำกว่าค่าเงินบาทเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดจนบริบทโครงสร้างการค้าไทยในปัจจุบัน ที่มีสัดส่วนการค้าในภูมิภาคที่สูง

 

"ทรัมป์ 2.0" ซ้ำเติมค่าบาทผันผวนสูงยิ่งขึ้น

สรุปข่าว

ttb analytics พบว่าโครงสร้างประเทศคู่ค้าในปัจจุบัน เปิดโอกาสในการใช้เงินสกุลท้องถิ่นมากขึ้น จากข้อมูลการค้าปี 2567 ไทยมีสัดส่วนมูลค่าการค้ากับประเทศในภูมิภาคในเอเชียถึงร้อยละ 67.2  ซึ่งมีกลุ่มอาเซียนอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 20  ขณะที่สัดส่วนกับสหรัฐฯ มีเพียงร้อยละ 12.3  สวนทางกับสัดส่วนสกุลเงินที่ใช้ในการค้าระหว่างประเทศประมาณ 3 ใน 4 ที่ยังคงใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ในการชำระค่าสินค้า


อย่างไรก็ดี ทิศทางการใช้เงินสกุลท้องถิ่น มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีความร่วมมือกับธนาคารกลางของประเทศเหล่านั้น พบว่า มีสัดส่วนการใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อาทิ มาเลเซีย ที่พบว่ามีสัดส่วนการใช้เงินบาทและเงินริงกิต เพิ่มมากขึ้นจาก ร้อยละ 14.9 ในปี 2563 เป็นร้อยละ 17.5 ในปี 2567 


ดังนั้น ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับค่าเงิน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ผู้ลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ หรือผู้ที่มีหนี้ในสกุลเงินต่างประเทศ ควรติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด และใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเหมาะสม ตลอดจนการใช้สกุลเงินภูมิภาค ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการป้องกันความเสี่ยง

ที่มาข้อมูล : ttb analytics

ที่มารูปภาพ : TNN

avatar

Nanchaya Cheanvorasakul
(Nanchaya Cheanvorasakul)