นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ต่อจากนี้สหรัฐฯ จะใช้ นโยบายทรัมป์ 2.0 ผ่าน "ภาษีนำเข้า" เป็น เครื่องมือในการเจรจา ในกลุ่มที่ได้ดุลกานค้ากับสหรัฐ ตามนโยบาย America First ที่สหรัฐฯ จะนำผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เป็นที่ตั้ง
และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการเมืองและความมั่นคง ในประเด็นเรื่องคนลักลอบเข้าเมืองและปัญหายาเสพติด รวมถึงความต้องการขยายดินแดนและอิทธิพลไปนอกสหรัฐฯ อาทิ คลองปานามา กรีนแลนด์ และแคนาดา
ทั้งนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ประเทศไทย น่าจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการที่ประเทศไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 10 ของโลก และจะกระทบต่อภาคการส่งออกและเศรษฐกิจไทยประมาณร้อยละ 0.5
ดังนั้น กลยุทธ์ของไทยในการรับมือ คือ การเปิดตลาดให้กับธุรกิจสหรัฐฯ มากขึ้น หรือเพิ่มการนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ เพื่อลดการได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ เช่นในสินค้าเกษตร ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น
เพราะตอนนี้ไทยมีเวลาแค่ 2 เดือน ก่อนสหรัฐฯ จะประกาศขึ้นภาษีประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐในวันที่ 1 เมษายน 2568 ดังนั้นจึงต้องเร่งเจราจาให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ หากผลกระทบจากสงครามการค้าขยายวงกว้าง มองว่าธนาคารกลางของสหรัฐ หรือ เฟดอาจจะไม่สามารถลดดอกเบี้ยเพิ่ม จากที่คาดว่าจะลดลง 2 ครั้งในปีนี้
สำหรับนโยบายทรัมป์ 2.0 จะเน้น การสร้างความมั่นคง ทางด้านเศรษฐกิจ และการทหาร ให้กับสหรัฐฯ เป็นหลัก เราจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่สหรัฐฯ จะใช้ความยิ่งใหญ่ทางเศรษฐกิจของตนเองเป็นเครื่องมือต่อรอง ให้สหรัฐฯ ได้ประโยชน์จากความสัมพันธ์อย่างมากที่สุด
สรุปข่าว