ครม. ไฟเขียว รถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย วงเงินกว่า 3.4 แสนล้าน สุริยะเผยเตรียมทำเป็นโครงการร่วมทุนเอกชน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้ดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย กรอบวงเงิน 341,351.42 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 8 ปี (ปีงบประมาณ 2568-2575) โดยให้รัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายปี และให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ และค้ำประกันเงินกู้ให้ตามความเหมาะสม

.

ส่วนที่ 1 

.

การก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากโครงการฯ ระยะที่ 1 ที่จะเริ่มต้นที่จังหวัดนครราชสีมา ไปจนถึงจังหวัดหนองคาย 

.

วงเงิน 335,665.21 ล้านบาท 

ระยะทาง 357.12 กม. 

ประกอบด้วย 5 สถานี ได้แก่

 (1) สถานีบัวใหญ่ 

(2) สถานีบ้านไผ่

 (3) สถานีขอนแก่น 

(4) สถานีอุดรธานี 

และ (5) สถานีหนองคาย 

โดยจะเริ่มก่อสร้างในปีงบประมาณ 2568 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2575 (รวม 8 ปี)


.

ส่วนที่ 2 

.

การก่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้านาทา วงเงิน 5,686.21 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นการก่อสร้างศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายสินค้าทางรถไฟ ทั้งขาเข้า - ขาออก ระหว่างทางขนาด 1 เมตร ของรถไฟไทย และขนาดทางมาตรฐาน 1.45 เมตร ของโครงการรถไฟลาว - จีน ในรูปแบบศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One stop service)

ครม. ไฟเขียว รถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย วงเงินกว่า 3.4 แสนล้าน  สุริยะเผยเตรียมทำเป็นโครงการร่วมทุนเอกชน

สรุปข่าว

คณะรัฐมนตรีอนุมัติรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย กรอบวงเงิน 3.4 แสนล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 8 ปี (ปีงบประมาณ 2568-2575), นายกฯเร่งรัดการก่อสร้างโครงการระยะที่ 1 หลังจากล่าช้ากว่ากำหนด , รัฐมนตรีคมนาคมเผยเตรียมทำเป็นโครงการร่วมทุนเอกชน

สำหรับโครงการฯ ระยะที่ 2 เมื่อพิจารณา EIRR เชิงกว้าง กรณีโครงการฯ ระยะที่ 1 + 2 พบว่า มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 13.23% ซึ่งยังมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ อีกทั้งบอร์ดรถไฟฯ มีมติเห็นชอบโครงการฯ ระยะที่ 2 และ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้เห็นชอบรายงาน EIA ของโครงการ ระยะที่ 2 แล้ว


ทั้งนี้ เลขาฯ ครม. ได้สรุปความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้กระทรวงคมนาคม เร่งจัดทำรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมของรูปแบบการบริหารจัดการรถไฟความเร็วสูง เสนอ ครม. พิจารณาโดยเร็ว และให้การรถไฟฯ ศึกษารูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการ และเสนอขออนุมัติพร้อมกันกับการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยให้ทบทวนและปรับปรุงสมมติฐานที่ใช้ในการศึกษาให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน


เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ 


ซึ่งที่ผ่านมา ครม. มีมติ เมื่อ 11 กรกฎาคม 2560 ที่อนุมัติให้ รฟท. ดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม. -หนองคาย (โครงการฯ ระยะที่ 1) กทม.- นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 253 กม. วงเงิน 179,413 ล้านบาท โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี ( ปีงบประมาณ 2560- 2563) ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ ระยะที่ 1 ล่าช้ากว่ากำหนด โดยมีความคืบหน้าโดยรวม 35.74% ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2571 โดยนายกรัฐมนตรี สั่งการว่า ขอให้ กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ เร่งรัดดำเนินโครงการฯ ระยะที่ 1 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากล่าช้ากว่าแผนนานแล้ว



ทางด้านของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติให้ดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี และในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีจะเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ก็จะได้แจ้งความคืบหน้า ภายหลังจากที่จีนได้เร่งรัดมาอย่างต่อเนื่อง


 ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นห่วงเรื่องงบประมาณดำเนินการที่ค่อนข้างสูง จึงเห็นว่าควรทำเป็น พ.ร.บ.ร่วมทุน กระทรวงคมนาคมจึงมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเดินรถ ให้ไปดำเนินการ โดยหากผ่านความเห็นชอบก็จะเป็นการเชิญชวนภาคเอกชนมาร่วมลงทุน ก็จะช่วยลดภาระงบประมาณภาครัฐลงได้ 


ทั้งนี้หากผ่านความเห็นชอบแล้ว แผนงานขั้นต่อไป การรถไฟฯ ก็จะทำทีโออาร์ และเปิดประมูลการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ประมาณเดือนมิถุนายนนี้

ที่มาข้อมูล : รัฐบาลไทย

ที่มารูปภาพ : Freepik

avatar

Thikamphon Yukamnoet
(Thikamphon Yukamnoet)

แท็กบทความ