Brian Niccol (ไบรอัน นิกโคล) ซีอีโอ สตาร์บัคส์ อธิบายแผนนี้ในการประชุมรายงานผลประกอบการของสตาร์บัคส์ เมื่อวันอังคาร โดยระบุว่าจะลดจำนวนเครื่องดื่มและอาหารประมาณร้อยละ 30 แต่ไม่ได้ระบุชื่อเมนูที่ถูกตัดออกโดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ Niccol เคยกล่าวว่าเมนูของร้านมีความซับซ้อนเกินไป ทำให้เกิดปัญหาแถวยาว โดย สตาร์บัคส์ ได้ยกเลิกเมนูเครื่องดื่มที่ใส่น้ำมันมะกอกและเครื่องดื่มชูกำลังไปแล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทก็เพิ่งเพิ่มเมนูใหม่ เช่น เครื่องดื่มเอสเปรสโซที่เรียกว่า Cortado และนำเครื่องดื่มรสพิสตาชิโอกลับมาอีกครั้ง
การลดจำนวนเมนูจะช่วยให้สตาร์บัคส์ ตอบสนองต่อการเคลื่อนตัวของกระแสวัฒนธรรมได้มากขึ้น เช่น ความสำเร็จของเครื่องดื่ม 'ดูไบ มัทฉะ' (Dubai Matcha) ที่กลายมาเป็นเมนูยอดนิยมของร้านสตาร์บัคส์ในแบบที่ลูกค้าเลือกส่วนผสมเองที่สร้างกระแสไวรัลในโซเชียลมีเดีย
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูธุรกิจ หลังบริษัทรายงานยอดขายลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่ โดยยอดขายในสหรัฐฯ ของร้านที่เปิดมานานกว่า 1 ปี ลดลงร้อยละ 6 ในไตรมาสที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม
สรุปข่าว
Niccol ยอมรับว่ายังมีช่องว่างสำหรับการปรับปรุง แต่มั่นใจว่ากำลังเดินมาถูกทาง นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา Niccol ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ซึ่งได้รับการตอบรับเชิงบวกจากลูกค้า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้รวมถึงการปรับบรรยากาศในร้าน สตาร์บัคส์ ด้วยนโยบายใหม่สำหรับลูกค้าที่ชำระเงิน การนำบาร์เครื่องปรุงกลับมา และการเพิ่มข้อความส่วนตัวที่เขียนโดยบาริสต้าบนแก้วกาแฟ นอกจากนี้ บริษัทยังปรับชื่อใหม่เป็น "Starbucks Coffee Company" เพื่อเน้นย้ำถึงรากฐานของธุรกิจกาแฟ
อย่างไรก็ตาม มีการเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่ลูกค้าอาจไม่ชอบ คือการลดจำนวนโปรโมชั่น จำนวนมาก ส่งผลให้ยิดขายที่มีส่วนลด ลดลงถึงร้อยละ 40 ซึ่ง Niccol ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดีขึ้น