มูลค่าตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลงเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์ในวันจันทร์ (27 มกราคม 2568) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หุ้นอินวิเดียทรุดตัวลง 17% ปิดที่ระดับ 118.58 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 โดยหลังจากที่อินวิเดียแซงหน้าบริษัทแอปเปิ้ล (Apple) ขึ้นเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หุ้นอินวิเดียกลับร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์และเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.1%
กระแสการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเกิดขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลว่า การเปิดตัวโมเดล AI ของบริษัทดีปซีค (DeepSeek) ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ตอัปของจีน จะส่งผลให้เกิดการแข่งขันเพิ่มขึ้นในตลาด AI ทั่วโลก DeepSeek เปิดตัวโมเดล AI แบบ open-source ในเดือนธันวาคม 2567 โดยระบุว่าใช้เวลาในการพัฒนาเพียง 2 เดือน ใช้ต้นทุนไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์ และใช้ชิป H800s ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพต่ำของอินวิเดีย
นอกจากนี้ DeepSeek ยังก้าวขึ้นเป็นแอปพลิเคชันฟรีที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดในสหรัฐฯ ผ่านทาง App Store ของบริษัทแอปเปิ้ล โดยสามารถโค่นแอปพลิเคชัน ChatGPT ของ OpenAI
การมาของ DeepSeek สร้างความตื่นตระหนกต่อความเป็นผู้นำโลกในธุรกิจ AI ของสหรัฐ และเกิดการตั้งคำถามต่อการที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีได้ใช้งบประมาณจำนวนมากในการพัฒนาโมเดล AI และการตั้งศูนย์ดาต้าเซนเตอร์ในช่วงที่ผ่านมา
ที่ผ่านมาหน่วยประมวลผลกราฟิก หรือ GPU ของอินวิเดียครองตลาดชิปศูนย์ข้อมูล AI ในสหรัฐฯ โดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างอัลฟาเบท (Alphabet) เมตา (Meta) และอะเมซอน (Amazon) ใช้จ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับ GPU เหล่านี้เพื่อฝึกฝนและใช้งานโมเดล AI ของบริษัท
นักวิเคราะห์จากบริษัทแคนทอร์ (Cantor) ระบุว่า การเปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดของ DeepSeek ได้ก่อให้เกิดความวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อความต้องการหน่วยประมวลผล และยังส่งผลให้เกิดความวิตกว่าการใช้จ่ายด้าน GPU จะถึงจุดอิ่มตัว
หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐต่างดิ่งลงอย่างหนักในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกที่ว่า ลูกค้าอาจพากันหันไปรับข้อเสนอที่มีราคาถูกกว่าจาก DeepSeek ธุรกิจสตาร์ตอัปของจีน ซึ่งได้เปิดตัวโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าแชตบอตระดับโลกอย่าง ChatGPT ของ OpenAI โดยใช้ต้นทุนน้อยกว่าและสามารถทำงานบนชิปที่มีขีดความสามารถต่ำกว่า
อย่างไรก็ดี โมเดล AI ของ DeepSeek ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจีน ส่งผลให้ผู้ใช้บริการ DeepSeek จะไม่ได้รับคำตอบต่อคำถามเกี่ยวกับการเมืองของจีน เช่น เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับจัตุรัสเทียนอันเหมิน, ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง หรือความเป็นไปได้ที่จีนจะรุกรานไต้หวัน
สรุปข่าว
