“บลูมเบิร์ก” รายงานว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของบริษัทอังกฤษมีแนวโน้มลดลง ขณะที่มีสัญญาณเตือนเกี่ยวกับผลกำไรของภาคธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบหนักสุดนับตั้งแต่วิกฤตโควิด
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งสร้างความกังวลให้กับรัฐบาลที่ให้คำมั่นจะกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มการลงทุนด้านสวัสดิการ
“ราเชล รีฟส์” รัฐมนตรีคลังของอังกฤษ จำเป็นต้องเร่งผลักดันการผลิตให้เพิ่มขึ้นเพื่อให้มีรายได้เข้าคลังเพิ่มขึ้น แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนกลับลดลงในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ตามข้อมูลของสมาพันธ์อุตสาหกรรมแห่งอังกฤษ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนแอสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 เมื่อมาตรการจำกัดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์ ยังมีผลบังคับใช้
ด้านข้อมูลจากรายงานของ EY-พาร์เธนอน (EY-Parthenon) ระบุว่า บริษัทจดทะเบียนในอังกฤษราว 1 ใน 5 ออกคำเตือนเกี่ยวกับผลกำไรในปี 2567 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นในระดับเดียวกับช่วงวิกฤตโควิด และหลังจากฟองสบู่ดอตคอมแตก
เศรษฐกิจอังกฤษได้รับผลกระทบจากการเติบโตที่เชื่องช้าในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เนื่องจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงส่งผลกระทบต่อบริษัทและภาคครัวเรือน
บริษัทต่าง ๆ วิพากษ์วิจารณ์การขึ้นภาษีของรัฐมนตรีคลังมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านปอนด์ ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2566 และตำแหน่งงานก็ลดลงในระดับเดียวกับที่เกิดวิกฤตการเงิน
รายงานของ EY-พาร์เธนอน ระบุด้วยว่า บริษัทจดทะเบียนในอังกฤษ 274 แห่งได้รับคำเตือนเรื่องผลกำไร ซึ่งแรงกดดันด้านผลกำไรมักจะตามมาด้วยอัตราล้มละลายที่เพิ่มขึ้น
คำเตือนเรื่องผลกำไรส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมด้านบริการ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และคอมพิวเตอร์ รวมถึงภาคค้าปลีก
สรุปข่าว

Adthawan Law
(Adthawan Law)