เศรษฐีอาหรับ นิยมซื้อสินค้าลดราคาเพิ่มขึ้น

สรุปข่าว

บริษัท Nielsen IQ บริษัทชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกผู้บริโภคระดับโลก มีการนำเสนอมุมมองพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก โดยเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพลวัตของ 2 ตลาดที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) คือประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี และประเทศซาอุดีอาระเบีย 

พบว่าผู้บริโภคในทั้งสองประเทศร้อยละ 72 เต็มใจที่จะจ่ายราคาพรีเมียมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง 

แต่ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในยูเออีนั้นแสดงให้เห็นถึงการแบ่งขั้วที่ชัดเจนระหว่างสินค้าหรู กับสินค้าราคาประหยัด โดยแบรนด์ราคาประหยัด เติบโตร้อยละ 15 ขณะที่แบรนด์พรีเมียม เติบโตดีกว่าร้อยละ  20

ในทางตรงกันข้าม ตลาดซาอุดีอาระเบียขับเคลื่อนโดยแบรนด์หลักเป็นส่วนใหญ่ โดยแสดงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ร้อยละ 14 และแบรนด์ใหญ่ทำหน้าที่เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาด

จากผลสำรวจตรงนี้ทำให้เห็นว่า แม้ว่าผลิตภัณฑ์พรีเมียมจะยังคงครองยอดขายอยู่ แต่สินค้าราคาประหยัดกำลังได้รับส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงความชอบของผู้บริโภคและพลวัตของตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้พบ การเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์การตลาดในซาอุดีอาระะเบียและยูเออี โดยพบว่า กิจกรรมส่งเสริมการขาย แบบลดราคาชั่วคราว (Temporary Price Discounts :TPR) ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดยูเออี ที่มีการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมลดราคาสินค้าแบบชั่วคราว ร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีก่อน 

รายงาน State of Nation ของ Nielsen IQ  แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้เร็วหมด (FMCG) และ สินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสินค้าคงทน(T&D

พบว่ายูเออีมีการเติบโตของสินค้า FMCG แข็งแกร่งที่ร้อยละ 4.1 สินค้า T&D เติบโตที่ร้อยละ 2.8 และรูปแบบการค้าแบบดั้งเดิมขยายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6.4 ซึ่งสูงกว่าการค้าแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) อย่างมาก 

ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียมีสินค้า FMCG เติบโตที่ร้อยละ 1.8 ขณะที่สินค้า T&D ลดลงเล็กน้อย ร้อยละ 1.1 ส่วนการค้าแบบดั้งเดิม เติบโตที่ร้อยละ 2.4 ซึ่งเหนือกว่าการค้าแบบสมัยใหม่

ส่วนภาวะเศรษฐกิจ ยูเออี คาดว่าจะมีการเติบโตที่น่าประทับใจที่ร้อยละ 4 ในปี 2567 การเติบโตจะเร่งตัวขึ้นอีกร้อยละ 1 ในปี 2568 โดยเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนโดยกิจกรรมที่แข็งแกร่งในภาคการท่องเที่ยว การก่อสร้าง และบริการทางการเงิน

ซาอุดีอาระเบีย คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตที่ร้อยละ 5 ในปี 2567 การเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.6 ใน ปี 2568 เนื่องจากมีการกระจายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ทั้งสองตลาดสามารถรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำมากเป็นพิเศษ โดยยูเออีมีเงินฟ้อที่ร้อยละ 2.4 ซาอุดีอาระเบีย ที่ร้อยละ 1.7 อัตราเงินเฟ้อเหล่านี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ ร้อยละ 5.8 อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่มั่นคงสำหรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคของ 2 ประเทศเป็นอย่างดี

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ

business watch
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ซาอุดีอาระเบีย
ช้อปปิ้ง
เอยูอี