ส.อ.ท.แนะไทยตั้งการ์ดรับสินค้าทุ่มตลาด

สรุปข่าว

นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดี ว่า เรื่องนี้ไทยได้่ทั้งโอกาสและความเสี่ยงที่ต้องระวัง โดยสิ่งที่ไทยต้องระวัง คือ เนื่องจาก ทรัมป์ มีนโยบายสหรัฐอเมริกาจะต้องมาก่อน (America First)  พร้อมตั้งเป้าว่าสินค้าใด ที่ไปกระทบอุตสาหกรรมในประเทศจะพยายามกีดกัน โดยในฝั่งสินค้าจีน มีการตั้งกำแพงภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 60-80 ส่วนสินค้าประเทศอื่นที่ได้เปรียบอเมริกาฯ มีแผนจะตั้งเป้าเพิ่มกำแพงภาษีร้อยละ 20 


ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไทยได้ดุลการค้ามากพอสมควร คาดว่าปีนี้จะไทยจะได้ดุลสหรัฐฯ มากกว่า 43,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นประเทศที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 11 ดังนั้นสหรัฐฯ อาจเพ็งเล็ง ดังนั้นเราจึงต้องปรับตัวลดต้นทุนการค้า และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้  


ส่วนการตั้งกำแพงภาษีจีนมากขึ้น ส่งผลดีต่อไทย เพราะการที่จีนส่งสินค้าไปสหรัฐ ไม่ได้ก็ถือเป็นโอกาสของสินค้าไทย และต้องยอมรับว่า 7-8 ปีย้อนหลังสหรัฐฯ ซื้อสินค้าไทยมากขึ้น เพราะนำไปทดแทนสินค้าจีน ถ้าหากเรารักษาสถานะเราให้ได้ ไม่ใช่ประเทศที่จีนใช้เป็นฐานในการหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้า เรายังคงประโยชน์เรื่องนี้ได้ 


นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องระวังอีกเรื่อง คือ การที่สินค้าต่างชาติเข้ามาทุ่มตลาดในไทย โดยเฉพาะสินค้าจีน ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย หรือ กกร.ได้ยื่นเรื่องนี้ในสมุดปกขาวแล้ว ต่อรัฐบาลแล้ว และรัฐบาลก็มีมาตรการทางกฎหมายต่างๆ เพื่อดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มงวดมากขึ้น และมองว่าไทยต้องตั้งการ์ดรับมือเครื่องนี้ให้ดี  


ที่มา 

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

แท็กบทความ

ย่อโลกเศรษฐกิจ
โดนัลด์ ทรัมป์
กำแพงภาษีจีน
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
สมาคมธนาคารไทย