
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเกือบ 1% ในวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) ส่วนดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลงกว่า 2% และเข้าสู่เขตปรับฐาน (Correction Territory) แล้ว เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ
ดาวโจนส์ปิดที่ 42,579.08 จุด ลดลง 427.51 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,579.08 จุด ลดลง 427.51 จุด หรือ -0.99%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,738.52 จุด ลดลง 104.11 จุด หรือ -1.78% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,069.26 จุด ลดลง 483.48 จุด หรือ -2.61%

สรุปข่าว
เลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า
ในช่วงแรก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในอัตรา 25% ออกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะบังคับใช้สำหรับสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) แต่ในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตัดสินใจว่าจะเลื่อนการเรียกเก็บภาษี 25% จากแคนาดาออกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย.ด้วยเช่นกัน
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากปประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไป 1 เดือน
มาร์ค มาร์เลค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุนจากบริษัท SiebertNXT กล่าวว่า ตลาดถูกปกคลุมด้วยความสับสนที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ และนักลงทุนกำลังได้รับข้อมูลที่ขัดแย้งกันมากมาย
ขณะที่บิล สเตอร์ลิง นักยุทธศาสตร์การลงทุนจากบริษัท GW&K Investment Management กล่าวว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดจากการประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างรวดเร็วนั้น สามารถสร้างความเสียหายต่อการลงทุนและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับขนาดของอัตราภาษี ซึ่งจะสร้างผลกระทบมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในปี 2561 และอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นด้วย

Siriporn Boo
(siriporn_boo)