

สรุปข่าว
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ล่าสุดได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กรมการขนส่งทางราง และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) หารือร่วมกันเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) เรื่องการพัฒนาการขนส่งสินค้าทางรางให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนจากนี้ ก่อนนำมาเสนอกระทรวงคมนาคม โดยตั้งเป้าว่าในปี 2564 ร.ฟ.ท.จะต้องมีการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นให้ได้อีก 30% หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 13.26 ล้านตัน จากปี 2561 อยู่ที่ 10.2 ล้านตัน
ทั้งนี้ที่ผ่านมา การรถไฟฯ วิ่งรถขนส่งสินค้า 156 ขบวนต่อวัน คิดเป็นสินค้าที่ขนส่งประมาณ 10.50 ล้านตัน เป็นสัดส่วนแค่ 1% ของการขนส่งทุกระบบ เรียกว่าเป็นการใช้ศักยภาพการขนส่งสินค้าทางรางที่ต่ำมาก ส่วนการขนส่งคนก็ต่ำเช่นกัน จะหนาแน่นแค่ช่วงเทศกาล แต่ช่วงเวลาปกติคนไม่ค่อยอยากเดินทางด้วยรถไฟ เพราะรถมีสภาพเก่า ใช้งานมานาน 30 ปีแล้ว ภาระหนี้สะสมตอนนี้ก็ประมาณ 1.6 แสนล้านบาท ทั้งที่รถไฟมีศักยภาพที่จะสามารถใช้ประโยชน์รางให้ได้มากกว่านี้ เขาเหมือนเป็นยักษ์หลับ เราก็ต้องปลุกยักษ์หลับให้ตื่นมาสร้างประโยชน์กับประชาชน
นอกจากนี้ เห็นว่าในอนาคต ร.ฟ.ท.จะมีรางมากขึ้น เนื่องจากมีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 เฟส โดยเฟสที่ 1 มี 9 สายทาง แล้วเสร็จ 2 สายทาง ระยะทางรวม 293 กิโลเมตร (กม.) อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 5 สายทาง ระยะทางรวม 700 กม. กำลังจะเปิดประกวดราคาอีก 2 สายทาง ระยะทางรวม 687 กม. และมีแผนดำเนินการเฟสที่ 2 อีก 1,483 กม. วงเงิน 272,219.14 ล้านบาท จึงควรเตรียมการเรื่องการเพิ่มศักยภาพของร.ฟ.ท.ไว้ก่อน
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้มอบนโยบายแก่ทั้ง 3 หน่วยงานว่า ในการจัดทำแผนควรพิจารณาให้เอกชนสามารถเข้ามาลงทุนเดินรถสินค้ากับร.ฟ.ท. พร้อมทั้งควรสร้างสถานีขนถ่ายสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างการขนส่งทางรางและรถบรรทุก ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนการขนส่ง มีความรวดเร็ว และลดปัญหาการจราจรบนท้องถนนด้วย
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
ที่มาข้อมูล : -