สรุปข่าว
กรุงเทพฯ 13 เม.ย.63 -ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการ SME ในเรื่องการปรับตัวและมาตรการ SME ในภาวะวิกฤตไวรัสโควิด–19 ในช่วงเดือนมีนาคม 2563 จากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี SME ทั่วประเทศ จำนวน 2,655 ราย จาก 21 สาขาธุรกิจ
โดย จากผลสำรวจพบว่า SME ยอดขายของกิจการในเดือนมีนาคม 2563 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2562 กิจการส่วนใหญ่คิดเป็นสัดส่วน 87.2% หรือมีจำนวนมากถึง 2,315 ราย ตอบว่ามียอดขายลดลง โดยสาขาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ ร้านอาหารที่ยังไม่เข้าร่วมเดลิเวอรี่ และอุปโภคบริโภคดั้งเดิม
นอกจากนี้ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ถึง 33.5% ยังไม่มีแผนปรับตัวรับวิกฤติโควิด-19 ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วงอาจจะไม่สามารถปรับตัวให้รอดพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้ ดังนั้น สสว. จะให้ศูนย์บริการเอสเอ็มอีครบวงจร (OSS) ทั่วประเทศ 77 จังหวัด ทำการสำรวจและรับข้อร้องเรียนจากผู้ประกอบการ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือ SME รวมถึงส่งต่อผู้ประกอบการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ต่อไป
สำหรับมาตรการที่ผู้ประกอบการ SME เห็นว่า สามารถช่วยธุรกิจ SME ในสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีที่สุด พบว่ามาตรการที่ผู้ประกอบ SME ต้องการมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ 1. การลดหย่อนภาษี 2. ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 3. ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 4. ผ่อนผันระยะเวลาการชำระหนี้ และ5. ลด/เลื่อนค่าสาธารณูปโภค
ในขณะที่มาตรการช่วยเหลือ SME ที่รัฐบาลได้ประกาศออกมา 12 มาตรการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กรณีวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระยะที่ 1 จากผลสำรวจ พบว่า 3 อันดับแรกที่ผู้ประกอบการชอบมากที่สุด ได้แก่ 1.มาตรการพักเงินต้น ลดดอกเบี้ย ขยายเวลาชำระหนี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ 2. มาตรการลดและเลื่อนจ่ายค่าน้ำค่าไฟ 3. มาตรการปล่อยกู้ ดอกเบี้ย 2% เวลา 2 ปี ไม่เกิน 20 ล้านบาท ทั้งนี้ สสว. จะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอของเอสเอ็มอีทั้งหมด ไปประมวลรวบรวมเพื่อปรับปรุงมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี จากนั้นจะนำเสนอต่อรัฐบาล เพื่อออกมาเป็นมาตรการช่วยเหลือต่างๆต่อไป
ที่มาข้อมูล : -