

สรุปข่าว
วันนี้ (11 ม.ค.63) นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่าหลังจากหลังจากกรมสรรพสามิตปรับลดภาษีรถยนต์อีวีจาก 2%เหลือ 0 % สำหรับรถอีวีที่ผลิตออกมาขายในไทยตั้งแต่ปี 2563 ถึงปี 2565 ทำให้ค่ายรถยนต์ใหญ่อย่างน้อย 1-2 ค่าย เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ภาษีดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตามการให้สิทธิประโยชน์ส่วนของงกรมสรรพสามิตถือว่าดำเนินการเต็มที่แล้ว ดังนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่ว่าจะตอบรับมากน้อยแค่ไหน ส่วนที่ให้ระยะเวลาถึงปี 2565 เพื่อเป็นไปตามกรอบการส่งเสริมลงทุนของบีโอไอที่กำหนดรอบระยะเวลาส่งเสริมถึงปี 2565
ขณะที่ ปัญหาจุดเติมพลังงานที่ยังมีน้อยมากแม้รัฐพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นนั้นเป็นหน้าที่กระทรวงอื่นต้องช่วยกันเร่งรัดต่อไป
ส่วนโรงงานแบตเตอรี่ขณนี้ยังไม่มีการผลิตในไทย แต่นำเข้ามาเป็นลูกเพื่อใช้ในกระบวนการผลิต รัฐพยายามให้เกิดโรงงานแบตเตอรี่ในไทยเพื่อลดต้นทุนลง เนื่องจากแบตเตอรี่คิดเป็นต้นทุนถึง 70-80%ของมูลค่ารถ ต้องการลงทุนต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตจึงไม่มั่นใจว่าจะทำให้เกิดการสร้างโรงงานในไทย
ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในปี 2563 กรมฯเร่งผลักดันให้จัดตั้งกองทุนแบตเตอรี่รถอีวี เพื่อสนับสนุนให้มีการกำจัดแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี จึงจำเป็นต้องออกกฎหมายมาดูแล โดยหากเป็นรถยนต์ที่นำเข้า ซึ่งไม่อยู่ภายในกรอบของบีโอไอ อาจต้องเสียเงินเข้ากองทุนกำจัดซากแบตเตอรี่ลูกละ 10,000 บาท แต่หากอยู่นอกกรอบบีโอไอที่มีเงื่อนไขในการบริหารจัดการแบตเตอรี่จะเสียเงินลูกละ 1,000 บาท หากมีการกำจัดซากที่ถูกต้องมีหลักฐานชัดเจนสามารถขอคืนเงินดังกล่าวได้ เพื่อสร้างความมั่นใจในการกำจัดซาก จะได้ไม่เป็นขยะพิษในไทย
เกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
ที่มาข้อมูล : -