ถือเป็นสิ่งที่ช่วนให้คิดตามว่าจะเชื่อถือได้หรือไม่ สำหรับประเด็นมะม่วงออกช่อดอกมาก จะเกิดพายุฝนรุนแรงในเดือนเมษายน ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ชี้แจงแล้วว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลบิดเบือนเนื่องจากสภาพอากาศบริเวณประเทศไทยตอนบนในระยะครึ่งแรกของเดือนธันวาคมบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ ส่วนภาคอื่น ๆ มีอากาศเย็นหลายพื้นที่
จากนั้นประเทศไทยมีอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเกือบทั่วไป ส่วนในช่วงเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นทั่วไปเกือบตลอดช่วง สำหรับปริมาณฝนประเทศไทยตอนบนแทบไม่มีรายงานฝนตก เว้นแต่ในช่วงกลางเดือนธันวาคมมีฝนบางพื้นที่ จึงเป็นเหตุผลว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นต่อเนื่องและมีช่วงเวลาที่แล้งติดต่อกันมากกว่า 2 สัปดาห์นั้น ทำให้มะม่วงในแต่ละพื้นที่มีช่วงเวลาและสภาพอากาศที่เหมาะสม จึงออกดอกมากในปีนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดพายุ ลมแรงในช่วงเดือนเมษายน
สรุปข่าว
ทั้งนี้ มะม่วงสามารถปลูกและผลิดอกออกผลได้ดีในพื้นที่ทุกจังหวัด และทุกภาคของประเทศไทย แต่จะให้ผลแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศของแต่ละท้องที่ ยกเว้นบางจังหวัดในภาคใต้ที่มีปริมาณฝนตกมาก และการกระจายของฝนเกือบตลอดปีอาจทำให้มะม่วงเจริญเติบโตทางด้านลำต้นมาก แต่ไม่ออกดอกออกผลเท่าที่ควร
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการปลูกมะม่วง คือ มะม่วงทั่ว ๆ ไป ต้องการช่วงแล้งก่อนการออกดอก สำหรับในประเทศไทยซึ่งมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,587.5 มิลลิเมตร ต่อปี และมีช่วงแล้งคั่นระหว่างช่วงที่ฝนตก ทำให้สามารถปลูกมะม่วงได้ทุกภาค นอกจากบางพื้นที่ที่มีฝนตกชุกทั้งปี ไม่มีช่วงแล้งคั่นเลย โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม มกราคม เเละกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระยะที่มะม่วงจะออกดอก ถ้ามีฝนตกหรือความชื้นมาก ยอดที่แตกมาใหม่จะเจริญไปเป็นใบหมด แทนที่จะเจริญเป็นดอก
ในสภาพดินฟ้าอากาศเช่นนี้ จึงไม่เหมาะที่จะปลูกมะม่วงเป็นการค้า นอกจากจะใช้วิธีการอื่น ๆ ช่วยเร่งการออกดอก ในระยะที่มะม่วงแทงช่อ ดอกกำลังบาน ไม่ควรมีฝนตกเลย หรือมีฝนตกได้เพียงเล็กน้อย เพราะฝนที่ตกหนักในช่วงนี้จะทำให้ดอกเสียหาย ฝนจะชะละอองเกสรหลุดไปจนหมด ทำให้แมลงต่าง ๆ ไม่สามารถช่วยผสมเกสรได้ มะม่วงก็จะไม่ติดผล ฝนที่ตกจะทำให้ความชื้นของอากาศสูง เหมาะแก่การระบาดของเพลี้ยจั๊กจั่นมะม่วง ชึ่งจะทำลายดอกให้เสียหาย และเกิดเชื้อราดำตามมา ทำให้ดอกและผลอ่อนร่วงเสียหายได้มากเช่นกัน โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการออกดอกอยู่ระหว่าง 15-20 องศาเซลเซียส (อากาศเย็น) ต่อเนื่องกันนานประมาณ 2 สัปดาห์
ส่วนภาคอื่น ๆ มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ จากนั้นประเทศไทยมีอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเกือบทั่วไป ส่วนในช่วงเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นทั่วไปเกือบตลอดช่วง สำหรับปริมาณฝนประเทศไทยตอนบนแทบไม่มีรายงานฝนตก เว้นแต่ในช่วงกลางเดือนธันวาคมมีฝนบางพื้นที่
ที่มาข้อมูล : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย
ที่มารูปภาพ : AFP