'ทักษิณ' ลุยอีสาน สร้างปรากฏการณ์ "ทะเลแดง"
"คิดฮอดหลาย" - เสียงทักทายที่ดังขึ้นในทุกเวทีปราศรัย สะท้อนความรู้สึกของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ที่กลับมาเยือนภาคอีสานอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานถึง 17 ปี การกลับมาครั้งนี้ในฐานะ "ผู้ช่วยหาเสียง" ให้ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในสังกัดพรรคเพื่อไทย ได้สร้างปรากฏการณ์ "ทะเลแดง" ขึ้นอีกครั้งใน 3 จังหวัดอีสาน - นครพนม หนองคาย และบึงกาฬ
คืนถิ่นหลังวันที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป
บรรยากาศการต้อนรับอดีตนายกรัฐมนตรีวัย 75 ปี เต็มไปด้วยความอบอุ่นและคึกคัก ผู้คนหลั่งไหลมาร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก หลายคนนำดอกกุหลาบและพวงมาลัยดาวเรืองมามอบให้ บางคนถึงกับร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ แสดงให้เห็นว่าแม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด แต่ความผูกพันระหว่างทักษิณกับชาวอีสานยังคงแน่นแฟ้นไม่เปลี่ยนแปลง
"ผมไปอยู่เมืองนอก 17 ปี เหงา คิดถึงบ้าน" ทักษิณเล่าถึงช่วงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตในต่างแดน ก่อนจะเอ่ยเพลงที่คุ้นหู "คิดฮอดบ้านแฮง เช้าหรือแลงมองนาฬิกา จากบ้านมาคิดถึงคนไกล" สะท้อนความรู้สึกที่มีต่อบ้านเกิดเมืองนอน
"พ่อ-ลูก" นำทัพพัฒนาประเทศ
การกลับมาครั้งนี้ของทักษิณมีความพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ "ลูกสาว" - นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร กำลังนำพาประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทักษิณเล่าย้อนความทรงจำว่า ตอนที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นายกฯ อายุเพียง 8 ขวบ และได้สวมพวงมาลัยดาวเรืองมาตั้งแต่ตอนนั้น
"วิธีคิด วิธีพูด วิธีทำงานเหมือนกัน แม้ไม่ได้คุยกัน แต่เวลาเขาให้สัมภาษณ์ตรงกับเราทุกอย่าง" ทักษิณกล่าวถึงลูกสาว พร้อมเผยว่าคุยกันทุกวัน ปรึกษาหารือตลอด "ผมมีประสบการณ์แนะนำ นายกอิ๊งค์เอาความเป็นคนรุ่นใหม่มาประกอบกัน"
สามวาระสำคัญเพื่อการเปลี่ยนแปลง
1. ปราบยาเสพติด: จุดยืนที่ไม่เปลี่ยนแปลง
"ทักษิณกลับมาแล้ว" - ประโยคที่เขาต้องการส่งถึงผู้ค้ายาเสพติด มาพร้อมคำเตือนที่ชัดเจน "ถ้าไม่เลิก ตัวใครตัวมัน มีบ้านยึดบ้าน มีรถยึดรถ" โดยตั้งเป้าว่าสิ้นปี 2568 จะกวาดล้างยาเสพติดให้หมดสิ้น ควบคู่ไปกับการจัดการปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในพม่าและกัมพูชา
"หลายคนร้องไห้ ไม่รู้จะเอาลูกหลานคืนกลับมาได้ยังไง" ทักษิณสะท้อนความรู้สึกของผู้ปกครองที่ลูกหลานติดยาเสพติด พร้อมย้ำว่าจะเร่งนำผู้ติดยาเข้าสู่กระบวนการบำบัดโดยเร็วที่สุด
2. ฟื้นฟูเศรษฐกิจ: จากรากหญ้าถึงมหภาค
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจถูกนำเสนอในหลายมิติ เริ่มจากการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยกลุ่มแรกที่จะได้รับคือผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในวันที่ 27 มกราคม 2568 ตามด้วยโครงการบ้านเพื่อคนไทยที่ได้รับความสนใจถึง 3.1 ล้านคน
ทักษิณยังผลักดันโครงการ Entertainment Complex ที่จะสร้างงานถึง 20,000 ตำแหน่ง ด้วยเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท พร้อมแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าราคา 20 บาทตลอดสาย และการพัฒนาเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน
3. ปฏิวัติการเกษตร: จากท้องนาสู่เทคโนโลยี
"1 ตำบล 1 โดรนการเกษตร" คือนโยบายที่ทักษิณประกาศเพื่อยกระดับภาคการเกษตร มุ่งใช้เทคโนโลยีในการพ่นปุ๋ยและยาฆ่าแมลง พร้อมผลักดันให้เกษตรกรกล้าใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิต
โดยเฉพาะในพื้นที่บึงกาฬที่มีการปลูกยางพารากว่าล้านไร่ ซึ่งเป็นผลจากการตัดสินใจครั้งสำคัญของทักษิณในการยกเลิกมติ ครม. สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ที่จำกัดการขยายพื้นที่ปลูกยางพารา ทำให้วันนี้ชาวบึงกาฬมีรายได้จากการทำสวนยาง
สรุปข่าว
ซอฟต์พาวเวอร์ มิติใหม่แห่งการพัฒนา
หนึ่งในนโยบายที่น่าสนใจคือการพัฒนา "ซอฟต์พาวเวอร์" โดยร่วมมือกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ในการค้นหาคนไทยที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ ไม่จำกัดเพศ เพื่อพัฒนาสู่การเป็นนายแบบ-นางแบบระดับโลก
"เราอยากได้คนที่มีความงามแบบไทยแท้ หรือมีเชื้อสายจีน อินเดีย หรือลาว งามแบบออริจินัล แบบที่ออกมาจากท้องแม่" ทักษิณกล่าว พร้อมเผยว่าจะมีการร่วมมือกับนาโอมิ แคมเบล ที่จะเดินทางมาประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์
การเมืองท้องถิ่น กุญแจสู่การพัฒนา
การลงพื้นที่ครั้งนี้ ทักษิณเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ในนครพนม เขาสนับสนุนนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ. เบอร์ 8 ที่หนองคาย สนับสนุนนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก เบอร์ 2 และที่บึงกาฬ สนับสนุนว่าที่ ร.ต.ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น เบอร์ 1
"40 ปีที่เหลือ" ความหวังและคำมั่นสัญญา
แม้จะย่างเข้าสู่วัย 76 ปี แต่ทักษิณยังคงมั่นใจว่าจะสามารถทำงานรับใช้ประชาชนได้อีก 40 ปี "ตราบใดที่ผมยังอยู่ ผมจะไม่เลิกคิดให้บ้านให้เมืองให้พี่น้องประชาชน" เขากล่าว พร้อมขอให้ประชาชนให้กำลังใจด้วยการเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
มองไปข้างหน้า: อนาคตที่รออยู่
ทักษิณปิดท้ายการปราศรัยด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ภายในปี 2570 หากพรรคเพื่อไทยได้กลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง เขาเชื่อมั่นว่าประชาชนจะ "ล้วงกระเป๋าไม่ลง เพราะเงินเยอะไป"
"หลายๆอย่างที่ปล่อยผ่านเลยนานมา ก็ต้องกลับมาแก้ไข" เขากล่าว "แม้งานนี้จะยากกว่าเดิม แต่ไม่เกินความสามารถ" ด้วยการนำของนายกรัฐมนตรีรุ่นใหม่ที่ "ขยันและสู้" พร้อมด้วยประสบการณ์ของคนรุ่นเก่าที่พร้อมจะผลักดันประเทศ
แผนยกระดับคุณภาพชีวิต: จากรากหญ้าถึงระดับชาติ
การแก้ปัญหาค่าครองชีพ
เรื่องค่าไฟฟ้าเป็นหนึ่งในประเด็นเร่งด่วนที่ทักษิณให้ความสำคัญ โดยตั้งเป้าลดค่าไฟฟ้าให้เหลือ 3.40 บาท จากที่เคยประกาศไว้ที่ 3.70 บาท "ราคาไฟฟ้าอีกไม่นานจะลงมาแล้ว เมื่อราคาไฟฟ้าลงได้ ราคาปุ๋ยกับยางก็ลงได้" เขากล่าว พร้อมตั้งคำถามถึงการอ้างอิงราคาน้ำมันกับสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่ได้ผลิตน้ำมันเอง
การจัดการพนันและหวย
ทักษิณเสนอแนวทางจัดการปัญหาการพนันด้วยการ "เอาของใต้ดินขึ้นมาบนดิน" โดยเฉพาะการพนันออนไลน์ที่มีผู้เล่น 2.5-4 ล้านคน เขาเสนอให้นำมาอยู่ในระบบ เก็บภาษี และมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวด โดยเฉพาะการห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเล่น และการส่งผู้ที่ติดการพนันไปรับการรักษาทางจิตเวช
การพัฒนาภูมิภาค: วิสัยทัศน์สู่อนาคต
กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น
"วันนี้พี่น้องชนบทเงินไม่พอ เงินหาได้ถูกดูดเข้ากรุงเทพฯ เงินไม่ได้อยู่ในบริเวณนี้" ทักษิณวิเคราะห์ปัญหาการกระจุกตัวของความมั่งคั่ง พร้อมเสนอแนวทางการพัฒนาเมืองในภูมิภาค "ตนอยากเห็นต่างจังหวัดเติบโตมีตึกสูงๆ อยู่ พี่น้องมีงานทำไม่ใช่ว่าทำไร่ไถนาซะอย่างเดียว"
การฟื้นฟูโครงการ OTOP
หนึ่งในนโยบายสำคัญคือการนำโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) กลับมาและพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้น "ตอนนี้กำลังออกแบบเพื่อเชื่อมโยงโอทอปเดิมให้สมัยใหม่ ให้ขายได้ทั่วโลก" ทักษิณกล่าว
เทคโนโลยีและนวัตกรรม: ก้าวสู่อนาคต
การใช้ AI และเทคโนโลยีดิจิทัล
ทักษิณสนับสนุนวิสัยทัศน์ของนายกฯ แพทองธาร ในการผลักดันการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะในด้านการศึกษา มีแผนแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนอีกครั้ง และพัฒนาโครงการ "หนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน"
มีการเปิดเผยแผนการสร้างศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านสเต็มเซลล์และการตัดต่อพันธุกรรม ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ "หากทำได้ประเทศไทยจะนำสมัยมาก" ทักษิณกล่าว
การเมืองในยุคใหม่ ความหวังและความเปลี่ยนแปลง
"วันนี้เรื่องปฏิวัติไม่ต้องห่วง ไม่มีแล้ว" ทักษิณให้ความมั่นใจกับประชาชน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ครบวาระจนถึงปี 2570 "ไม่ต้องกังวลข่าวการเมืองว่าจะยุบสภา พรรคนั้นทะเลาะกับพรรคนี้ ไม่มี สบายมาก"
ทักษิณเน้นย้ำความสำคัญของการเมืองท้องถิ่นในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ "วันนี้ที่ผมต้องมาช่วยหาเสียงให้ อบจ. เพราะผมอยากได้กำลังภาคพื้นดิน ภาคจังหวัดที่จะต้องช่วยกันดูค้นหาคนมาร่วมกับมหาวิทยาลัย"
การเดินทางครั้งนี้ของทักษิณไม่เพียงแต่เป็นการหาเสียงทางการเมือง แต่ยังเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเขากับชาวอีสาน ผ่านนโยบายและวิสัยทัศน์ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน จากรากหญ้าสู่ระดับประเทศ
"เรามีนายกฯตัวจริงคือแพทองธาร" ทักษิณกล่าวทิ้งท้าย สะท้อนให้เห็นถึงความหวังใหม่ของการเมืองไทย ที่ผสานประสบการณ์ของคนรุ่นเก่าเข้ากับพลังและวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดีกว่า
ที่มาข้อมูล : หาเอง/ตัดต่อเอง
ที่มารูปภาพ : พรรคเพื่อไทย / TNN รวบรวม