![สหรัฐเสนอร่าง กม. งัด ‘DeepSeek’ จีน จำคุกสูงสุด 20 ปี ปรับสูงสุด 3,400 ล้านบาท](/static/2025/f9b2aacc-90e4-4d8f-8ffa-a2c4ecbc1243.webp)
อนาคตของ DeepSeek ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตัวใหม่จากจีนในสหรัฐอเมริกาจะเป็นอย่างไร เมื่อวุฒิสมาชิกจอช ฮอว์ลีย์ (Josh Hawley) จากรัฐมิสซูรีได้เสนอร่างกฎหมายใหม่ที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นมาตรการการควบคุม AI จากคู่แข่งที่กำลังมาแรงจากจีนที่เข้มงวดที่สุดเท่าที่สหรัฐเคยมีมาโดยหากรัฐสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายนี้อาจหมายความว่าความเป็นไปได้ในการใช้งาน DeepSeek ในสหรัฐจะสูญสิ้นไปในทันที
ร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งฮอว์ลีย์ยื่นเสนอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีเป้าหมายเพื่อห้ามบุคคลจากสหรัฐฯ ในการพัฒนาขีดความสามารถของ AI ภายในสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ ยังกำหนดให้เทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาที่พัฒนาในจีนเป็นสิ่งห้ามนำเข้าไปยังสหรัฐ ผู้ที่ฝ่าฝืนอาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี และถูกปรับเป็นเงินสูงสุด 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 34 ล้านบาท สำหรับบุคคลทั่วไป หรือ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 3,400 ล้านบาท สำหรับนิติบุคคล
เบน บรูคส์ (Ben Brooks) นักวิจัยด้าน AI จากฮาร์วาร์ด ให้ความเห็นว่า มาตรการนี้ถือเป็น “การดำเนินการด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อบกับ AI ที่รุนแรงที่สุด” เท่าที่เคยมีมา
แม้ว่าการพิจารณาร่างกฎหมายนี้จะถูกเลื่อนออกไปไม่นานหลังการเสนอเข้าสภา ซึ่งมักเป็นสัญญาณของการไม่ผ่านการพิจารณา แต่ ความเป็นจริงที่ว่ามีการเสนอร่างกฎหมายนี้เข้าสู่สภาคองเกรส สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกไม่ปลอดภัยที่ขยายตัวมากขึ้นต่อการจัดการกับ AI ของจีน ความกังวลของสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐหลายคนก่อตัวจาก DeepSeek ทั้งยังส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้นครั้งใหญ่ในตลาดมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อไม่นานมานี้ ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจกับ DeepSeek หลังจากที่เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากเทคโนโลยีจากจีนนี้สามารถทำงานได้ทัดเทียมกับ AI ชั้นนำของสหรัฐ แต่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่ามาก
ความมีประสิทธิภาพเช่นนี้ทำให้เกิดความกังวลว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐอาจกำลังเสียเปรียบและสูญเสียเม็ดเงินจำนวนมหาศาลไปกับโมเดลที่สิ้นเปลืองกว่า ในขณะเดียวกัน ยังมีความกลัวว่าอาจมีการใช้ AI จีนเพื่อช่วยเร่งพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารหรือระบบสอดแนม ซึ่งจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐอีกด้วย
ด้านบริษัท Nvidia ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิป AI ชั้นนำของโลก ก็กลายเป็นจุดสนใจท่ามกลางข้อถกเถียงนี้ เพราะราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงอย่างหนัก เสียมูลค่าตลาดไปเกือบ 600,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในภายวันที่ 27 มกราคม เพียงวันเดียว ซึ่งถือเป็นมูลค่าการขาดทุนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นอเมริกา หลังจากที่ DeepSeek ก่อให้เกิดความกังวลมากมายต่อความเป็นผู้นำของสหรัฐฯในภาคส่วนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ส่งผลให้เกิดคำถามว่า Nvidia จะยังคงจัดหาชิปให้บริษัทจีนต่อไปหรือไม่
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 31 มกราคม เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอของ Nvidia ได้พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ของสหรัฐ แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการหารือมากนัก แต่โฆษกของบริษัทกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การสนทนาเน้นไปที่ “ความสำคัญของการเสริมสร้างความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและ AI ของสหรัฐ”
ความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีจีนยังสะท้อนได้ผ่านกรณีของ TikTok แม้ว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติการแบน TikTok เมื่อปีที่แล้ว แต่การบังคับใช้ยังคงไม่มีเสถียรภาพ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ทรัมป์เปลี่ยนจุดยืนและเลือกที่จะไม่ดำเนินการ
สำหรับกรณีของ DeepSeek ไม่ว่าการแบน AI จากจีนตัวนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ตาม การยื่นร่างกฎหมายดังกล่าวก็แสดงให้เห็นถึงท่าทีที่แข็งกร้าวและความเข้มงวดที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐในการตรวจสอบปัญญาประดิษฐ์จากจีน และอาจส่งผลต่อทิศทางนโยบายเทคโนโลยีในอนาคต
![สหรัฐเสนอร่าง กม. งัด ‘DeepSeek’ จีน จำคุกสูงสุด 20 ปี ปรับสูงสุด 3,400 ล้านบาท](/static/2025/f9b2aacc-90e4-4d8f-8ffa-a2c4ecbc1243.webp)
สรุปข่าว
ที่มาข้อมูล : ที่มาข้อมูล https://interestingengineering.com/culture/law-proposed-to-criminalize-deepseek
ที่มารูปภาพ : Reuters