ถอดปริศนา “ม้วนคัมภีร์เฮอร์คิวเลเนียม” อายุเกือบ 2,000 ปี

ม้วนกระดาษที่โดนเผาไหม้ จนดูแล้วกลายเป็นเหมือนแท่งหินที่เราเห็นอยู่นี้ คือม้วนคัมภีร์โบราณ “เฮอร์คิวเลเนียม” (Herculaneum scroll) อายุราว 2,000 ปี ที่เหลือรอดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟเวซูเวียส เมื่อปี ค.ศ.79 ที่สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้เมืองปอมเปอี

ถอดปริศนา “ม้วนคัมภีร์เฮอร์คิวเลเนียม” อายุเกือบ 2,000 ปี

สรุปข่าว

ติดตามความคืบหน้าของการไขปริศนาม้วนคัมภีร์โบราณอายุเกือบ 2,000 ปี ที่เหลือรอดมาจากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดของเมืองปอมเปอี โดยนักวิจัยใช้ AI เพื่อช่วยแกะข้อความบางส่วน จากม้วนกระดาษที่ไหม้เกรียมได้แล้ว

ปัจจุบันได้มีทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) ในประเทศอังกฤษ ที่พยายามถอดรหัสข้อความที่อยู่ในม้วนคัมภีร์นี้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อแกะเรื่องราวที่เกิดขึ้นยุคโบราณ จากซากของคัมภีร์กระดาษกว่าหลายร้อยม้วน ที่ถูกค้นพบในช่วงทศวรรษที่ 1750 


นักวิจัยเชื่อกันว่าม้วนกระดาษเหล่านี้ เดิมทีมีความยาวหลายเมตร แต่ถูกเผาจนกรอบและเปราะ ทำให้การคลี่ดูข้อความข้างในเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ด้วยเทคโนโลยีการสแกนภาพด้วยรังสีเอ็กซ์ ทำให้นักประวัติศาสตร์ สามารถอ่านข้อความข้างในได้เป็นครั้งแรก


โดยหนึ่งในคำที่นักวิจัยพบเป็นภาษากรีกโบราณ ที่ดูคล้ายกับคำว่า เดียโทรปี (διατροπή ,อังกฤษ diatrope) ซึ่งแปลว่า ความรังเกียจ จากนั้นนักวิจัยจึงได้ค้นหาคำศัพท์จากพจนานุกรมกรีกโบราณของอ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford Dictionary of Ancient Greek) พบว่าเป็นคำที่มีการใช้โดยนักปรัชญาในยุคเดียวกัน ทำให้ทีมวิจัยมีแนวทางในการศึกษาต่อมากขึ้น


นอกจากนี้ทีมวิจัยยังได้มีการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยปะติดปะต่อภาพ ค้นหารอยหมึกที่เผยให้เห็นบริเวณที่มีการเขียน และเพิ่มความชัดเจนของข้อความ นำไปสู่การสร้างภาพ 3 มิติของม้วนคัมภีร์ ที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถคลี่ออกมาอ่านได้เหมือนจริง

อย่างไรก็ตามตอนนี้ทีมวิจัยยังคงแกะเนื้อหาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เนื่องจากม้วนกระดาษมีความเปราะบางมาก แต่พวกเขาเชื่อว่าหากถอดรหัสได้หมด อาจจะทำให้เราได้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของศาสนาคริสต์ในช่วงต้น รวมถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในยุคโบราณ