![Open AI รีแบรนด์ดิ้ง ครั้งใหญ่ ทั้งโลโก้และแบบอักษรใหม่](/static/2025/94d6f760-27e5-4a03-82ad-65d907299d97.webp)
วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา OpenAI เปิดตัวโครงการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ สร้างสรรค์โลโก้และแบบอักษรใหม่ สำหรับโลโก้ที่ปรับปรุงใหม่ ที่แบรนด์เรียกว่า "ดอกไม้" แสดงให้เห็นพื้นที่ตรงกลางที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยและเส้นที่คมชัดขึ้น
ที่มาของภาพ
Open AI
จุดมุ่งหมายในการปรับโฉมของ OpenAI ในครั้งนี้ก็เพื่อให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดูมีความ "เป็นมนุษย์" มากขึ้น อีกทั้งนี่เป็นการรีแบรนด์ครั้งแรกของบริษัทนับตั้งแต่กระแสไวรัลที่ทำให้ Open AI กลายเป็นที่รู้จักในปี 2022 ด้วยความนิยมของแชทบอท ChatGPT
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปรับปรุงภาพลักษณ์ภายนอกขององค์กร แต่ยังเป็นการสื่อถึงความมุ่งมั่นของ OpenAI ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่เป็นประโยชน์ส่งต่อสู่สังคมได้อย่างกลมกลืน
![Open AI รีแบรนด์ดิ้ง ครั้งใหญ่ ทั้งโลโก้และแบบอักษรใหม่](/static/2025/94d6f760-27e5-4a03-82ad-65d907299d97.webp)
สรุปข่าว
แม้ว่าโลโก้ดั้งเดิมได้รับการออกแบบโดย เกร็ก บร็อกแมน (Greg Brockman) และ อิลยา ซุทส์เคเวอร์ (Ilya Sutskever) ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI แต่ทีมออกแบบรีแบรนด์ในครั้งนี้นำโดย ไวท์ เมลเลอร์ (Veit Moeller) หัวหน้าฝ่ายการออกแบบการสื่อสารของ OpenAI ที่ก่อนหน้านี้ เคยเป็นผู้นำด้านการออกแบบที่ Meta และ แชนนัน แจเกอร์ (Shannon Jager) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบที่ OpenAI ที่ก่อนหน้านี้ เคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ที่ BUCK และเป็นนักออกแบบที่ The New York Times Style Magazine และ Pentagram ได้เข้ามารับช่วงต่อในครั้งนี้
ที่มาของภาพ
Open AI
สำหรับการออกแบบในครั้งนี้ OpenAI ได้สร้างสรรค์แบบอักษรใหม่ชื่อว่า OpenAI sans ซึ่งเป็นการผสมผสานความแม่นยำทางเรขาคณิตและฟังก์ชันการใช้งานให้เข้ากับลักษณะโค้งมนที่เข้าถึงได้ง่าย อาจสังเกตได้ว่า คำว่า OpenAI ในโลโก้ใหม่ มีตัว "O" ที่ภายนอกของวงกลม กลมอย่างสมบูรณ์แบบแต่ภายในที่ไม่สมบูรณ์แบบ เหตุผลในการออกแบบออกมาเช่นนี้ เพื่อลบภาพความแม่นยำในแบบหุ่นยนต์ ให้รู้สึกดูเป็นมนุษย์มากขึ้น ตามรายงานจากสำนักข่าว Wallpaper
อีกทั้ง OpenAI ยังได้เน้นย้ำในบทสัมภาษณ์กับสำนักข่าว Wallpaper ถึงบทบาทของ AI ในกระบวนการออกแบบในครั้งนี้โดย Open AI ได้ใช้เครื่องมือ AI เช่น DALL-E และ ChatGPT ในการช่วยออกแบบโลโก้และแบบอักษรใหม่ด้วย แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะ Open AI ยังคงให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ในการตัดสินใจ โดยมีนักออกแบบผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและปรับปรุงผลงานให้ตรงตามเป้าหมายในทุกขั้นตอน
การรีแบรนด์ดิ้ง ครั้งใหญ่นี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ OpenAI ในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่จดจำในอุตสาหกรรม AI ที่มีการแข่งขันสูงขึ้น และดุเดือดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของ Deepseek ซึ่งเป็นบริษัท AI จากประเทศจีนที่เพิ่งได้รับเงินระดมทุนก้อนใหญ่จาก Softbank
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวนี้อาจแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OpenAI ในการรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด และเป็นการตอบโต้ขู่แข่งในการแข่งขัน อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ OpenAI ดูทันสมัยมากขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาเทคโนโลยีที่อยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างยั่งยืนด้วยเช่นกัน