Perplexity AI เสนอแผนควบรวมกิจการ TikTok พร้อมเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐฯ ถือหุ้น 50%
วันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา บริษัท Perplexity AI ได้ยื่นข้อเสนอการควบรวมกิจการกับบริษัท ByteDance บริษัทแม่ของแอปพลิเคชัน TikTok โดยข้อเสนอดังกล่าวเสนอให้จัดตั้งองค์กรใหม่ที่รวม TikTok US และบริษัท Perplexity AI เข้าด้วยกัน โดยรัฐบาลสหรัฐฯ จะสามารถถือหุ้นได้ถึง 50% เมื่อบริษัทใหม่เสนอขายหุ้น IPO ในอนาคต ข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยสำนักข่าว CNBC
โดยบริษัท Perplexity AI จะจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง "NewCo" บริษัท ByteDance จะต้องโอน TikTok US ให้กับองค์กรใหม่นี้ โดยไม่รวมอัลกอริทึมการแนะนำเนื้อหาหลัก เพื่อแลกกับการที่นักลงทุนปัจจุบันของบริษัท ByteDance ได้รับหุ้นในบริษัท NewCo ขณะที่ Perplexity AI ก็จะนำทรัพยากรของตัวเองเข้าสู่การควบรวมกิจการ และนักลงทุนของบริษัทก็จะได้รับส่วนแบ่งในบริษัท NewCo เช่นกัน
โดยแหล่งเงินทุนใหม่ "ผู้ให้ทุนรายที่สาม" จะทำหน้าที่จัดหาทุนเพื่อสนับสนุนการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนของบริษัท ByteDance และสร้างเสถียรภาพให้กับบริษัทใหม่ ซึ่งบริษัท Perplexity AI หวังว่าจะช่วยขยายโอกาสการเติบโตในตลาดที่แข่งขันสูง
บริษัท Perplexity AI เริ่มเปิดบริการปัญญาประดิษฐ์ในปี 2024 ด้วยมูลค่าประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 16,895 ล้านบาท ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก และสิ้นปีด้วยมูลค่ากว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 304,123 ล้านบาท ท่ามกลางกระแสปัญญาประดิษฐ์ AI ที่เติบโตและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเสิร์ชเอนจินค้นหาข้อมูลซึ่งมีบริษัท Google และ OpenAI เป็นผู้เล่นสำคัญ
ข้อเสนอใหม่นี้อาจสร้างโอกาสให้กับบริษัท ByteDance ในการรักษาสัดส่วนการถือหุ้นใน TikTok US ผ่านองค์กรใหม่ โดยไม่ต้องขายกิจการทั้งหมดออกไป ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Perplexity AI เชื่อว่าข้อตกลงนี้มีโอกาสสำเร็จ เนื่องจากลักษณะการควบรวมกิจการที่ไม่ใช่การขายตรง
ข้อเสนอที่ปรับปรุงล่าสุดนี้ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะสามารถถือหุ้นในองค์กรใหม่นี้ได้ถึง 50% หลัง IPO ซึ่งคาดการณ์ว่ามูลค่าของ NewCo อาจแตะ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 10,137,000 ล้านบาท โดยราคาประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ "มากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,690,000 ล้านบาท" ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักลงทุนในการเข้าร่วมหรือถอนทุนออกจากโครงสร้างใหม่นี้
แม้ว่ากระบวนการเจรจาและควบรวมกิจการจะยังคงใช้เวลาอีกหลายเดือน แต่ความเคลื่อนไหวนี้ได้รับความสนใจจากหลายฝ่าย รวมถึงบริษัท Microsoft, Oracle และบุคคลสำคัญอย่างอีลอน มัสก์ เจ้าของแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) โซเชียลมีเดียชื่อดัง
ทางด้านของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้แสดงจุดยืนสนับสนุนการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ TikTok ในสหรัฐฯ โดยเสนอให้ผู้ถือหุ้นชาวอเมริกันซื้อกิจการและขายหุ้น 50% ให้รัฐบาล ในขณะที่โชว จื่อชิว (Shou Zi Chew) ซีอีโอของ TikTok ขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ผ่านวิดีโอบน TikTok ที่ยังเปิดโอกาสให้บริษัทได้ดำเนินงานในสหรัฐฯ ต่อไป
การเสนอขาย TikTok US ในลักษณะนี้อาจเปลี่ยนภูมิทัศน์ของธุรกิจโซเชียลมีเดีย และเทคโนโลยีในระดับโลก ซึ่งจะต้องจับตาดูกันต่อไปในช่วง 30 วัน นับจากนี้
สรุปข่าว